เคลอริก (Cleric)
ด้วยสองแขนและสองตาที่ยกขึ้นไปสู่ดวงอาทิตย์และการสวดภาวนาจากปากของเขา เอลฟ์ผู้หนึ่งเริ่มจะมีแสงเรืองจากภายในและกระจายออกมาเพื่อรักษาบาดแผลของเหล่าเพื่อนร่วมรบ
ร้องสวดเพลงแห่งชัยชนะไปด้วย ดวอร์ฟกวัดแกว่งขวานในมือเข้าห้ำหั่นกับกลุ่มออร์คที่ประจันหน้ากับเขา พร้อมตะโกนสรรเสริญถึงเหล่าทวยเทพในทุก ๆ ศัตรูที่ร่วงล้มตาย
เรียกคำสาปลงมาสู่กองกำลังอันเดด มนุษย์ผู้หนึ่งชูสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นพร้อมกับลำแสงที่พุ่งออกมาจากมัน ขับไล่พวกซอมบี้ที่รุมกินโต๊ะพวกพ้องอยู่
เคลอริกเป็นตัวกลางระหว่างโลกคนเป็นและมิติที่ห่างไกลของเหล่าทวยเทพ แม้จะมีความหลากหลายดั่งเทพที่พวกเขารับใช้ เคลอริกมุ่งมั่นที่จะเป็นดั่งตัวแทนเจตนาของเหล่าเทพที่พวกเขาบูชา ไม่ใช่เป็นแค่นักบวชทั่วไปแต่เคลอริกได้ผสานเข้ากับเวทย์มนต์อันศักดิ์สิทธิ์
เป็นผู้เยียวยาและเป็นนักรบ
เวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์ ดังเช่นความหมายของชื่อ เป็นพลังของเทพเจ้าที่ส่งมอบมาจากพวกเขาโดยตรงมาสู่โลก เคลอริกเป็นเหมือนเส้นทางส่งพลังนั้น นำมาใช้สร้างปาฏิหาริย์ต่าง ๆ เหล่าทวยเทพมิได้ให้พลังนี้แก่ทุกคนที่ร้องขอ จะมีแต่ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะได้รับ
การควบคุมเวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ต้องใช้การเรียนหรือการฝึกฝน เคลอริกต้องเรียนรูปแบบการสวดภาวนาและพิธีกรรมโบราณ แต่ความสามารถในการใช้คาถานั้นจะขึ้นอยู่กับความอุทิตตนและการหยั่งรู้ถึงความต้องการของเหล่าเทพ
เคลอริกผสมผสานเวทย์มนต์ช่วยเหลือและสร้างแรงบันดาลใจแก่พันธมิตรด้วยคาถาที่สร้างความเสียหายและขัดขวางศัตรู พวกเขาสร้างความน่าเกรงขามและความหวาดกลัว ใช้คำสาปโรคร้ายหรือพิษ และแม้แต่เรียกเปลวไปจากสวรรค์มาเผาผลาญศัตรูได้ และสำหรับพวกชั่วที่จะใช้ได้ผลแค่คทาฟาดที่หัว เคลอริกก็ฝึกฝนการต่อสู้ประชิดตัวเตรียมรับพวกนี้ไว้แล้วโดยมีพลังของเหล่าเทพอยู่เคียงข้างพวกเขา
ตัวแทนศักดิ์สิทธิ์
ไม่ใช่สาวกหรือผู้ประกอบพิธีกรรมในวิหารหรือศาลเจ้าจะเป็นเคลอริก นักบวชบางคนก็เพียงต้องการชีวิตเรียบง่ายในการรับใช้ชุมชนในวิหาร ส่งผ่านพระประสงค์ของเทพเจ้าผ่านการสวนภาวนาและการบัดพลีบูชา ไม่ใช่โดยการใช้เวทย์มนต์และการต่อสู้ ในบางเมือง การออกบวชเป็นกิจกรรมทางการเมือง ถูกมองว่าเป็นบันไดสู่ตำแหน่งและอำนาจที่สูงขึ้นโดยไม่มีการติดต่อกับเทพแต่อย่างใด เคลอริกที่แท้จริงนั้นหาได้ยากยิ่งในสังคมเช่นนั้น
เมื่อเคลอริกหันหน้าเข้าสู่ชีวิตนักผจญภัย มันมักจะเป็นเพราะเทพเจ้าของเขาหรือเธอเรียกร้องให้เป็นไป การไล่ตามเป้าหมายจากเหล่าเทพมักจะต้องอาศัยความกล้าในการฝ่าฟันอันตรายนอกพื้นที่ถิ่นเจริญ ลงทัณฑ์ความชั่วร้ายหรือค้นหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในสุสานโบราณ เคลอริกมากมายยังมีเป้าหมายในการปกป้องผู้นับถือเทพเจ้าของพวกเขา ซึ่งอาจจะหมายถึงต้องต่อสู้กับพวกออร์ค เจรจาสันติภาพระหว่างสองประเทศ หรือปิดผนึกประตูมิติป้องกันเจ้าชายปีศาจไม่ให้ขึ้นมาบนพื้นโลก
เคลอริกนักผจญภัยส่วนใหญ่จะมีสายสัมพันธ์กับเหล่าวิหารและลัทธิของตน วิหารอาจจะร้องขอความช่วยเหลือจากเคลอริก หรือนักบวชอาวุโสอาจจะเป็นผู้ร้องขอ
การสร้างเคลอริก
ในการสร้างเคลอริก คำถามที่สำคัญที่ต้องพิจารณาคือคุณรับใช้เทพองค์ใด และหลักการใดที่คุณต้องการให้ตัวละครยึดถือ ภาคผนวก B มีรายการของเทพเจ้ามากมายในมัลติเวอร์ส ลองสอบถาม DM ของคุณเพื่อเรียนรู้ว่าเทพองค์ใดมีอยู่ในแคมเปญ
เมื่อคุณเลือกเทพที่คุณนับถือแล้ว ให้พิจารณาถึงความสัมพันธ์ของเคลอริกของคุณกับเทพเจ้าองค์นั้น คุณเข้ามารับใช้ด้วยความสมัครใจหรือไม่? หรือเทพเจ้าเป็นคนเลือกคุณมา ดึงคุณมาใช้งานโดยไม่ได้สนใจความต้องการของคุณหรือไม่? เหล่านักบวชในวิหารของลัทธิที่คุณศรัทธารู้สึกและปฏิบัติต่อคุณอย่างไร? เป็นแชมเปี้ยนหรือเป็นตัวปัญหา อะไรเป็นเป้าหมายสูงสุดของคุณ เทพเจ้าของคุณมีงานสำคัญเตรียมจะให้คุณทำหรือเปล่า? หรือคุณพยายามจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าคุณเหมาะกับงานสำคัญที่กำลังจะมา?
สร้างอย่างเร็ว
คุณสามารถสร้างเคลอริกอย่างรวดเร็วโดยทำตามคำแนะนำดังนี้ อย่างแรก ความรอบรู้ (Wisdom) ควรจะเป็นคะแนนความสามารถที่มากที่สุด ตามมาด้วยความแข็งแกร่ง (Strength) หรือความอดทน (Constitution) อย่างที่สอง เลือกภูมิหลังเป็น สาวก (acolyte)
ความสามารถของคลาส (Class Features)
เมื่อเป็นเคลอริก คุณจะได้รับคุณสมบัติประจำคลาสดังนี้
ฮิตพอยต์ (Hit Points)
ฮิทไดซ์: 1d8 ต่อเลเวลเคลอริก
ฮิตพอยต์ที่เลเวล 1: 8 + ค่าโมดิไฟเออร์ความอดทน (Constitution)
ฮิตพอยต์เมื่อเลเวลสูงขึ้น: 1d8 (หรือ 5) + ค่าโมดิไฟเออร์ความอดทน (Constitution) ต่อเลเวลเคลอริกหลังเลเวล 1
ความชำนาญ (Proficiencies)
เกราะ: เกราะเบา, เกราะกลาง, โล่
อาวุธ: อาวุธพื้นฐาน (Simple weapons)
เครื่องมือ: ไม่มี
ทอยป้องกัน: ความรอบรู้ (Wisdom), เสน่ห์ (Charisma)
ทักษะ: เลือก 2 ทักษะจาก ประวัติศาสตร์ (History), การมองทะลุ (Insight), การรักษาพยาบาล (Medicine), การชักจูงใจ (Persuasion), and ศาสนา (Religion)
อุปกรณ์ (Equipment)
คุณจะเริ่มเกมด้วยอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้รับจากภูมิหลัง:
- (a) คฑา (mace) 1 ด้าม หรือ (b) ฆ้อนสงคราม (warhammer) 1 ด้าม (ถ้ามีความชำนาญในการใช้)
- (a) เกราะเกล็ด (scale mail), (b) เกราะหนัง (leather armor), หรือ (c) เกราะโซ่ (chain mail) (ถ้ามีความชำนาญในการใช้)
- (a) ครอสโบวเบา (light crossbow) และ ลูกดอก 20 (bolt) ดอก หรือ (b) อาวุธพื้นฐานใด ๆ (simple weapon)
- (a) ชุดอุปกรณ์นักบวช (priest’s pack) หรือ (b) ชุดอุปกรณ์นักสำรวจ (explorer’s pack)
- โล่และสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ (shield and a holy symbol)
การใช้คาถา (Spellcasting)
เมื่อเป็นทางผ่านของพลังศักดิสิทธิ์ คุณสามารถใช้คาถาของเคลอริกได้ ดู บทที่ 10 สำหรับกฏทั่วไปของการใช้คาถา และ บทที่ 11 สำหรับรายการคาถาของเคลอริก
แคนทริป (Cantrips) คาถาที่ใช้ได้โดยไม่ต้องเสียสล็อตคาถา (spell slot)
ที่เลเวล 1 คุณจะรู้แคนทริป 3 คาถาตามที่คุณเลือกจากรายการคาถาเคลอริก คุณจะเรียนรู้ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลสูงขึ้นตามจำนวนที่ระบุในคอลัมภ์ “แคนทริปที่รู้” ในตารางความสามารถเคลอริก
การเตรียมและการร่ายคาถา
ตารางเคลอริกแสดงจำนวนสล็อตคาถาที่คุณมีเพื่อใช้ในการร่ายคาถาเลเวล 1 และมากกว่า การจะร่ายคาถาเหล่านี้คุณต้องจ่ายเป็นสล็อตคาถาตามเลเวลของมันหรือเลเวลสูงกว่า คุณจะได้รับสล็อตทั้งหมดที่ใช้ไปกลับคืนมาเมื่อคุณจบการพักยาว
คุณสามารถเตรียมรายการคาถาที่จะใช้ในการร่ายโดยเลือกจากรายการคาถาเคลอริก โดยจำนวนที่เตรียมได้จะได้มากจากค่าโมดิไฟเออร์ความรอบรู้ (Wisdom) + เลเวลเคลอริก (น้อยที่สุด 1 คาถา) โดยคาถาจะต้องมีเลเวลเดียวกับสล็อตคาถาที่คุณมี
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นเคลอริกเลเวล 3 คุณจะมีสล็อตคาถาเลเวล 1 จำนวน 4 ช่อง และเลเวล 2 จำนวน 2 ช่อง คุณมีค่าความรอบรู้ 16 (ค่าโมดิไฟเออร์เป็น 3) ฉะนั้นรายการคาถาของคุณจะมี 6 คาถา โดยเป็นคาถาเลเวล 1 และ 2 รวมกัน ถ้าคุณเตรียมคาถารักษาบาดแผล (cure wounds) เลเวล 1 มา คุณสามารถร่ายคาถาโดยใช้สล็อตเลเวล 1 หรือ 2 ก็ได้ การร่ายคาถาไม่ได้เป็นการเสียคาถาไปจากรายการที่เตรียมมา
คุณสามารถจะปรับเปลี่ยนรายการคาถาที่เตรียมมาได้หลังการพักยาว การเตรียมรายการใหม่ต้องใช้เวลาในการสวดภาวนาและการทำสมาธิ อย่างน้อย 1 นาทีต่อเลเวลคาถาในแต่ละคาถาในรายการ
ความสามารถที่ใช้ในการร่ายคาถา (Spellcasting Ability)
ความรอบรู้ (Wisdom) เป็นความสามารถที่ใช้ในการใช้คาถาสำหรับคาถาเคลอริกของคุณ พลังของคาถาของคุณจะมาจากการอุทิตตนให้กับเทพเจ้า คุณจะใช้ค่าความรอบรู้เมื่อไรก็ตามที่คาถาระบุถึงความสามารถที่ใช้ในการร่ายคาถา นอกจากนั้นแล้วคุณยังจะใช้ค่าโมดิไฟเออร์ของความรอบรู้เพื่อกำหนดค่าความยากในการทอยป้องกันคาถา (Spell save DC) และเมื่อคุณต้องทอยโจมตีด้วยคาถา
ค่าความยากในการทอยป้องกันคาถา (Spell save DC) = 8 + ค่าโบนัสความเชี่ยวชาญ + ค่าโมดิไฟเออร์ความรอบรู้
ค่าโมดิไฟเออร์การทอยโจมตีด้วยคาถา (Spell attack modifier) = ค่าโบนัสความเชี่ยวชาญ + ค่าโมดิไฟเออร์ความรอบรู้
การประกอบพิธีกรรม (Ritual Casting)
คุณสามารถร่ายคาถาเคลอริกแบบพิธีกรรมได้ หากคาถานั้นมีแท็ก “พิธีกรรม (ritual)” และคุณเตรียมคาถานั้นมา
สิ่งรวมสมาธิในการร่ายคาถา (Spellcasting Focus)
คุณสามารถใช้เครื่องดนตรี (ดูบทที่ 5 “อุปกรณ์”) เป็นสิ่งรวมสมาธิในการร่ายคาถาของเคลอริกได้
เขตอำนาจศักดิ์สิทธิ์ (Divine Domain)
เลือกหนึ่งในเขตอำนาจที่เกี่ยวเนื่องกับเทพเจ้าของคุณ ความรู้ (Knowledge), ชีวิต (Life), แสง (Light), ธรรมชาติ (Nature), พายุพิโรธ (Tempest), กลอุบาย (Trickery) หรือสงคราม (War) แต่ละเขตอำนาจมีคำอธิบายในส่วนท้ายของคำธิบายคลาส และแต่ละอย่างจะมีตัวอย่างของเทพเจ้าที่ผูกโยงกับเขตอำนาจต่าง ๆ นี้ ตัวเลือกที่คุณเลือกจะให้คาถาประจำเขตอำนาจและคุณลักษณะอื่น ๆ เมื่อคุณเลือกตั้งแต่เลเวล 1 และจะเพิ่มทางเลือกให้คุณใช้งาน การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ (Channel Divinity) เมื่อคุณได้รับความสามารถนี้เมื่อเลเวล 2 และมีคุณลักษณะเพิ่มเติมอีกเมื่อเลเวล 6, 8 และ 17
คาถาประจำเขตอำนาจ (Domain Spells)
แต่ละเขตอำนาจจะมีรายการคาถาประจำเขตอำนาจที่คุณจะได้รับและใช้ได้ มีรายละเอียดในคำอธิบายเขตอำนาจ เมื่อคุณได้รับคาถาประจำเขตอำนาจ คุณจะมีมันประจำอยู่ในรายการเสมอและมันจะไม่ถูกนับรวมกับจำนวนคาถาที่คุณสามารถเตรียมได้ในแต่ละวัน
ถ้าคุณมีคาถาประจำเขตอำนาจที่ไม่ได้อยู่ในรายการคาถาของเคลอริก ให้ถือว่าคาถานั้นเป็นคาถาของเคลอริกโดยปริยาย
การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ (Channel Divinity)
เมื่อคุณเลเวล 2 คุณจะได้รับความสามารถในการเชื่อมต่อพลังศักดิสิทธิ์โดยตรงจากเทพเจ้าของคุณ ใช้พลังนั้นในการสร้างผลของคาถา คุณจะเริ่มใช้ได้ 2 อย่างคือ ขับไล่ผีดิบ (Turn Undead) และอีกอย่างจากเขตอำนาจที่คุณเลือก เขตอำนาจบางอย่างจะให้ผลพิเศษเพิ่มขึ้นเมื่อคุณเลเวลสูงขึ้น ตามที่มีระบุในคำอธิบายเขตอำนาจ
เมื่อคุณใช้ความสามารถเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ คุณเลือกผลที่เกิดขึ้น คุณต้องจบการพักสั้นหรือพักยาวก่อนที่จะใช้ได้อีกครั้ง
ผลจากการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างต้องมีการทอยป้องกัน เมื่อคุณเลือกใช้ผลดังนั้น ระดับความยากในการป้องกันจะเท่ากับระดับความยากในการทอยป้องกันคาถาของเคลอริก (Spell save DC)
เริ่มที่เลเวล 6 คุณสามารถใช้การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ 2 ครั้งต่อการพัก 1 ครั้ง และเริ่มที่เลเวล 18 คุณจะสามารถใช้ได้ 3 ครั้ง เมื่อคุณจบการพักสั้นหรือพักยาวแล้วคุณจะได้รับส่วนที่ใช้ไปคืนกลับมา
การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ (Channel Divinity): ขับไล่ผีดิบ (Turn Undead)
ใช้ 1 แอ็คชัน คุณแสดงสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของคุณขึ้นมาและสวดขับไล่ผีดิบอันเด๊ด ผีดิบแต่ละตัวที่สามารถเห็นหรือได้ยินคุณในระยะ 30 ฟุตต้องทอยป้องกันด้วยค่าความรอบรู้ ถ้าทอยไม่ผ่าน มันจะถูกขับไล่ไปเป็นเวลา 1 นาที หรือจนกว่าจะได้รับความเสียหาย
สิ่งมีชีวิตที่ถูกขับไล่จะต้องใช้เทิร์นของมันในการพยายามออกห่างจากคุณเท่าที่สามารถทำได้ และมันจะไม่สามารถเข้าใกล้ได้ในระยะ 30 ฟุต และยังไม่สามารถใช้รีแอ็คชันได้ด้วย ในแอ็คชันของมัน มันจะสามารถใช้ได้เพียง “การวิ่งเร็ว (Dash)” หรือพยายามหนีจากสิ่งที่ยับยั้งไม่ให้มันเคลื่อนที่ได้เท่านั้น ถ้าไม่มีที่ให้ไปไหนได้ สิ่งมีชีวิตนั้นจะใช้ได้เพียง “การหลบหลีก (Dodge)”
เพิ่มคะแนนความสามารถ (Ability Score Improvement)
เมื่อคุณถึงเลเวล 4 และอีกครั้งเมื่อเลเวล 8, 12, 16 และ 19 คุณสามารถเพิ่มคะแนนความสามารถหนึ่งอย่างตามที่คุณเลือกได้ 2 คะแนน หรือเพิ่ม 1 คะแนนให้กับสองทักษะก็ได้ โดยปกติแล้วคุณจะไม่สามารถเพิ่มคะแนนความสามารถได้มากกว่า 20 หากใช้คุณลักษณะนี้
ทำลายผีดิบ (Destroy Undead)
เริ่มที่เลเวล 5 เมื่อผีดิบทอยป้องกันการขับไล่ผีดิบ (Turn Undead) ของคุณไม่ผ่าน พวกมันจะถูกทำลายทันทีถ้าระดับความท้าทาย (challenge rate) ของมันมีระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าที่ระบุในตารางด้านล่างนี้
ตารางการทำลายผีดิบ (Destroy Undead)
เลเวลเคลอริก | สามารถทำลายผีดิบได้ที่ CR . . . |
---|---|
5th | 1/2 or ต่ำกว่า |
8th | 1 or ต่ำกว่า |
11th | 2 or ต่ำกว่า |
14th | 3 or ต่ำกว่า |
17th | 4 or ต่ำกว่า |
การแทรกแซงจากเทพเจ้า (Divine Intervention)
เริ่มที่เลเวล 10 เมื่อเข้าตาจนคุณสามารถอ้อนวอนเพื่ออัญเชิญเทพเจ้าของคุณให้มาแทรกแซงเหตุการณ์เบื้องหน้าได้
ในการอัญเชิญเทพเจ้าต้องใช้แอ็คชัน อธิบายสิ่งที่คุณอยากให้เทพเจ้าช่วยเหลือ และทอยลูกเต๋าเปอเซ็นไทล์ ถ้าคุณทอยได้เท่ากับหรือน้อยกว่าเลเวลเคลอริกของคุณ เทพเจ้าจะลงมาช่วยเหลือ โดย DM จะเลือกลักษณะการช่วยเหลือนั้นจากคาถาเคลอริกหรือจากคาถาประจำเขตอำนาจที่เหมาะสม
ถ้าเทพเจ้าของคนช่วยเหลือแล้ว คุณจะไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ได้อีกเป็นเวลา 7 วัน หรือสามารถใช้ได้อีกครั้งเมื่อจบการพักยาว
ที่เลเวล 20 คุณสามารถอัญเชิญสำเร็จได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องทอยลูกเต๋าใด ๆ
เขตอำนาจศักดิ์สิทธิ์ (Divine Domains)
ในบรรดาเหล่าเทพทั้งหลาย เทพทุกองค์จะมีอิทธิพลที่แตกต่างกันต่อการดำเนินชีวิตของเหล่าสิ่งมีชีวิตและอารยธรรมต่าง ๆ สิ่งนี้เรียกว่า เขตอำนาจแห่งทวยเทพ เขตอำนาจทั้งหมดที่เทพองค์หนึ่งจะมีอิทธิพลได้จะเรียกว่า อาณาเขตอำนาจของเทพเจ้า ตัวอย่างเช่น อาณาเขตอำนาจของเทพเจ้ากรีก อพอลโล่ จะรวมถึงเขตอำนาจด้านความรู้, ชีวิต และแสงสว่าง เมื่อเป็นเคลอริก คุณได้เลือกหนึ่งในอาณาเขตอำนาจนี้เป็นพลังหลักของคุณ และคุณจะได้รับพลังที่เกี่ยวเนื่องกับเขตอำนาจนั้น
ตัวเลือกของคุณอาจจะเป็นลัทธิหนึ่งที่อุทิตตนแก่เทพเจ้าของคุณ ตัวอย่างเช่น อพอลโล่ อาจจะได้รับการบูชาในภาคหนึ่งชื่อ ฟีบัส อพอลโล่ (Phoebus แปลว่าแสงรัศมี) ซึ่งเน้นไปในอิทธิพลของเขาที่มีในเขตอำนาจแห่งแสงสว่าง และในพื้นที่อื่นจะถูกบูชาในชื่อ อพอลโล่ เอเซียส (Apollo Acesus การรักษาพยาบาล) โดยเน้นไปในอิทธิพลในเขตอำนาจแห่งชีวิต หรือคุณอาจจะเลือกเขตอำนาจใด ๆ ที่คุณถูกใจที่เทพของคุณมีอำนาจอยู่ก็ได้
คำอธิบายของแต่ละเขตอำนาจจะให้ตัวอย่างของเทพเจ้าที่มีอิทธิพลในเขตอำนาจนั้น ๆ โดยจะรวมเอาเทพเจ้าทั้งในโลกของอาณาจักรที่ถูกลืมเลือน (Forgotten Realms), เกรย์ฮ็อค (Greyhawk), ดรากอนแลนซ์ (Dragonlance), และเอเบอรอน (Eberron) และยังมีจากเคลติก กรีก นอร์ส และเทพอียิปต์ อีกด้วย
เขตอำนาจแห่งเวทย์มนต์ (Arcana Domain)
เขตอำนาจแห่งความตาย (Death Domain)
เขตอำนาจแห่งการหลอมตีโลหะ (Forge Domain)
เขตอำนาจแห่งสุสาน (Grave Domain)
เขตอำนาจแห่งความรู้ (Knowledge Domain)
เขตอำนาจแห่งชีวิต (Life Domain)
เขตอำนาจแห่งชีวิตเน้นไปที่การส่งพลังบวกซึ่งเป็นพลังพื้นฐานของจักรวาลที่สร้างและรักษาสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เทพเจ้าแห่งชีวิตจะส่งเสริมพลังชีวิตและสุขภาพจากการรักษาอาการเจ็บป่วยและบาดแผล การดูแลผู้ที่ต้องการการดูแล และขับไล่ปัดเป่าพลังแห่งความตายและเหล่าผีดิบ เรียกได้ว่าเทพใด ๆ ที่ไม่ชั่วร้ายสามารถอยู่ในเขตอำนาจนี้ได้หมด โดยเฉพาะเทพแห่งการเพาะปลูก เช่น ชวนที (Chuantea), อราไว (Arawai) และดีมีเทอร์ (Demeter), เทพแห่งดวงอาทิตย์ เช่น ลาแธนเดอร์ (Lathander), เพลอร์ (Pelor) และ เร-โฮราคฮที (Re-Horakhty), เทพเจ้าแห่งการรักษาหรือความทนทาน เช่น อิลมาเตอร์ (Ilmater), มิชาคาล (Mishakal), อพอลโล่ (Apollo) และไดอันเซลคฺ (Diancecht) และเทพเจ้าแห่งบ้านเรือนและชุมชน เช่นเฮสเทีย (Hestia), เฮธอร์ (Hathor) และโบลเดร (Boldrei)
คาถาประจำเขตอำนาจแห่งชีวิต (Life Domain Spells)
เลเวลเคลอริก | คาถา |
---|---|
1st | bless, cure wounds |
3rd | lesser restoration, spiritual weapon |
5th | beacon of hope, revivify |
7th | death ward, guardian of faith |
9th | mass cure wounds, raise dead |
โบนัสความเชี่ยวชาญ (Bonus Proficiency)
เมื่อคุณเลือกเขตอำนาจนี้ตอนเลเวล 1 คุณจะได้ความเชี่ยวชาญในการใช้เกราะหนัก (heavy armor)
สานุศิษย์แห่งชีวิต (Disciple of Life)
เริ่มตั้งแต่เลเวล 1 เช่นเดียวกัน คาถาในการรักษาของคุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้คาถาไม่ว่าจะเป็นเลเวล 1 หรือสูงกว่าในการฟื้นฟูฮิทพอยท์ของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตจะได้รับแต้มเพิ่มเป็นจำนวน 2 + เลเวลของคาถา
การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์: การสงวนชีวิต (Channel Divinity: Preserve Life)
เริ่มที่เลเวล 2 คุณสามารถใช้การเชื่อมต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ในการรักษาการบาดเจ็บรุนแรง
โดยใช้แอ็คชัน คุณจะแสดงสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์และใช้พลังในการรักษาที่สามารถฟื้นฟูค่าฮิทพอยท์ได้เป็นจำนวน 5 เท่าของเลเวลของเคลอริก เลือกสิ่งมีชีวิตใด ๆ ในระยะ 30 ฟุตรอบตัวคุณ และหารค่าฮิทพอยท์ดังกล่าวแจกจ่ายให้ทุกคนเท่า ๆ กัน ความสามารถนี้สามารถฟื้นฟูฮิทพอยท์ให้กับสิ่งมีชีวิตได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของค่าฮิทพอยท์สูงสุด คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้กับผีดิบอันเดดหรือหุ่นกลคอนสตรักได้
ผู้รักษาที่ได้รับพร (Blessed Healer)
เริ่มที่เลเวล 6 คาถารักษาที่คุณร่ายให้ผู้อื่นจะรักษาคุณด้วยเช่นกัน เมื่อคุณร่ายคาถาเลเวล 1 หรือสูงกว่าเพื่อทำการฟื้นฟูฮิทพอยท์ให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นนอกเหนือจากตัวคุณ คุณจะได้รับการฟื้นฟูฮิทพอยท์ด้วยเป็นจำนวน 2 + เลเวลของคาถา
การโจมตีอันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Strike)
ที่เลเวล 8 คุณจะได้รับความสามารถในการผสานการโจมตีด้วยอาวุธของคุณเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ ในการโจมตีในเทิร์นของคุณแต่ละเทิร์น เมื่อคุณโจมตีสิ่งมีชีวิตด้วยอาวุธ คุณสามารถจะสร้างความเสียหายพิเศษเป็นความเสียหายด้วยแสงรัศมี (radiant damage) 1d8 ให้กับเป้าหมาย เมื่อคุณถึงเลเวล 14 ความเสียหายพิเศษนี้จะเพิ่มเป็น 2d8
การรักษาระดับสูงสุด (Supreme Healing)
เริ่มที่เลเวล 17 เมื่อคุณจะทำการทอยลูกเต๋าหนึ่งหรือหลายลูกเพื่อหาค่าการฟื้นฟูฮิทพอยท์ด้วยคาถาตามปกติ คุณสามารถใช้ค่าสูงสุดของลูกเต๋านั้นในแต่ละลูกได้เลย ตัวอย่างเช่น แทนที่จะต้องทอย 2d6 เพื่อหาค่าการฟื้นฟูที่ได้ คุณสามารถใช้ค่า 12 ได้เลย