บทที่ 2: เผ่าพันธุ์

เยี่ยมชมหนึ่งในเมืองที่ยิ่งใหญ่ในโลกของดันเจียนแอนด์ดราก้อน เช่น วอเตอร์ดีพเมืองเสรีแห่งเกรฮอว์ค หรือแม้แต่ซิจิลเมืองแห่งประตู คุณจะได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย เสียงพูดคุยกันในต่างภาษานับไม่ถ้วน กลิ่นการปรุงอาหารมากมายหลากหลายชนิดผสมปนเปกับกลิ่นของผู้คนคับคั่งที่เดินบนถนน ตึกรามบ้านช่องผสมสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นถึงแหล่งกำเนิดของผู้อาศัย

และตัวของผู้คนเอง หลากหลายขนาด รูปร่างและสีผิว แต่งตัวในสไตล์และสีสันหลากหลาย แสดงถึงเผ่าพันธุ์มากมาย จากฮาล์ฟลิ่งตัวเล็กและดวอร์ฟเตี้ยล่ำจนถึงชาวเอลฟ์ผู้สวยงามสูงส่ง อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์จากหลายชนชาติ

มีเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยกระจายอยู่ในหมู่ชน ดราก้อนบอร์นร่างใหญ่โตอยู่ที่นี่ พยายามเดินแทรกตัวผ่านผู้คน ทีฟลิ่งเจ้าเล่ห์อยู่ที่นี่ ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมีแผนการบางอย่างฉายออกมาจากดวงตาของเธอ กลุ่มโนมหัวเราะชอบใจเมื่อสมาชิกคนหนึ่งเดินเครื่องตุ๊กตาไม้ให้มันเดินได้เอง ฮาล์ฟเอลฟ์และฮาล์ฟอ็อคอาศัยและทำงานอยู่ด้วยกันกับมนุษย์โดยแยกตัวออกมาจากเผ่าของพ่อแม่ และที่นั่น หลบเลี่ยงจากแสดงตะวัน พวกดราว ดาร์คเอลฟ์ผู้โดดเดี่ยว ผู้หลบหนีจากเมืองใต้โลกแห่งอันเดอร์ดาร์ค พยายามหาทางใช้ชีวิตในโลกด้านบนที่หวาดกลัวพวกเขา

เลือกเผ่าพันธุ์

มนุษย์เป็นผู้คนส่วนใหญ่ในโลกของ D&D แต่ก็อาศัยและทำงานอยู่ด้วยกันกับดวอร์ฟ เอลฟ์ ฮาล์ฟลิ่ง และอีกหลายสปีชี่ส์ ตัวละครของคุณจะเป็นหนึ่งในผู้คนเหล่านี้

ไม่ใช่ว่าทุกเผ่าพันธุ์ที่มีความฉลาดจะเหมาะกับการเป็นนักผจญภัยให้ผู้เล่นนำมาเล่นได้ ดวอร์ฟ เอลฟ์ ฮาล์ฟลิ่ง และมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ปกติที่จะนำมาเล่นกับปาร์ตี้ทั่วไป ดราก้อนบอร์น โนม ฮาล์ฟเอลฟ์ ฮาล์ฟอ็อค และทีฟลิ่งมักไม่ค่อยเป็นนักผจญภัย ดราวที่เป็นเผ่าย่อยของเอลฟ์ก็ด้วย

เผ่าพันธุ์ที่คุณเลือกจะมีผลหลายด้านกับตัวละคร มันจะเป็นตัวตั้งสำหรับพัฒนาการของตัวละครตลอดการผจญภัย เมื่อต้องตัดสินใจ ให้คำนึงถึงลักษณะของตัวละครที่คุณอยากเล่น ตัวอย่างเช่น ฮาล์ฟลิ่งจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะเป็นโจรย่องเบา ดวอร์ฟเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง และพวกเอลฟ์จะเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจ

เผ่าพันธุ์ของตัวละครไม่ได้มีผลกับคะแนนความสามารถและคุณลักษณะพิเศษ (trait) เท่านั้น แต่ยังให้คำใบ้ถึงการสร้างเรื่องราวของตัวละครอีกด้วย แต่ละเผ่าพันธุ์ที่อธิบายในส่วนนี้จะมีข้อมูลที่จะช่วยให้คุณโรลเพล์หรือแสดงเป็นตัวละครในเผ่าพันธุ์นั้น รวมถึงลักษณะนิสัย ลักษณะภายนอกและลักษณะของสังคมรอบตัว รายละเอียดเหล่านี้เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณได้จินตนาการถึงตัวละคร นักผจญภัยมักจะแตกต่างไปจากคนทั่วไปในเผ่าพันธุ์เดียวกัน มันมีประโยชน์ถ้าจะพิจารณาว่าทำไมตัวละครคุณถึงได้แตกต่าง ทำให้คุณเลือกภูมิหลังและลักษณะนิสัยของตัวละครได้ง่ายขึ้น

คุณลักษณะพิเศษของเผ่า

เป็นคำอธิบายลักษณะที่มีร่วมกันรวมถึงคุณลักษณะพิเศษของคนในเผ่า ส่วนต่าง ๆ ด้านล่างนี้จะปรากฏอยู่ในเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่

คะแนนความสามารถเพิ่ม

เผ่าพันธุ์ที่มีคุณลักษณะนี้จะให้คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้นในหนึ่งหรือหลายด้าน

อายุ

อายุที่ระบุจะเป็นตัวบอกถึงช่วงอายุที่คนในเผ่าจะเป็นผู้ใหญ่รวมถึงอายุสูงสุดที่คาดว่าจะอยู่ถึง ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าตัวละครอายุเท่าไรเมื่อเริ่มเกม คุณสามารถเลือกช่วงอายุใด ๆ ก็ได้ที่อธิบายถึงคะแนนความสามารถที่ปรากฏ ตัวอย่างเช่นคุณเล่นตัวละครที่ยังวัยรุ่นหรือแก่แล้ว อายุจะเป็นตัวบอกถึงความแข็งแกร่ง (STR) และความอดทน (CON) ที่ถดถอยหรือยังน้อย และเมื่ออายุมากขึ้นก็คาดได้ว่าจะมีความฉลาด (INT) และความรอบรู้ (WIS) เพิ่มมากขึ้น

ขนาด

ผู้คนส่วนใหญ่จะมีขนาดกลาง (Medium) เป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความสูงราว 4 - 8 ฟุต มีบางเผ่าที่มีขนาดเล็ก (Small) (อยู่ระหว่าง 2 - 4 ฟุต) ซึ่งนั่นหมายความว่ากฏบางอย่างของเกมจะมีผลที่แตกต่างไปกับเขา กฏส่วนใหญ่ที่สำคัญคือตัวละครตัวเล็กจะมีปัญหาในการถืออาวุธขนาดใหญ่ ซึ่งมีอธิบายไว้ในส่วนของอุปกรณ์

ความเร็ว #Speed

ความเร็วนี้เป็นตัวบอกว่าคุณสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วแค่ไหนในการเดินทาง (“โหมดการผจญภัย”) และในการต่อสู้ (“โหมดต่อสู้”)

ภาษา

ตัวละครของคุณจะสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาได้ “บุคลิกภาพและภูมิหลัง” จะมีรายการภาษาที่ใช้กันในโลกของ D&D

เผ่าพันธุ์ย่อย

บางเผ่าพันธุ์จะมีเผ่าพันธุ์ย่อย สมาชิกของเผ่าพันธุ์ย่อยจะมีคุณลักษณะพิเศษจากเผ่าพันธุ์หลักและมีส่วนเฉพาะของตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าพันธุ์ย่อยจะแตกต่างกันไปในแต่ละเผ่าและจากแต่ละโลก ตัวอย่างเช่น ในโลกดราก้อนแลนซ์ (Dragonlance settings) ดวอร์ฟภูเขาและดวอร์ฟเนินเขาจะอาศัยอยู่ด้วยกันแบบต่างเผ่าแต่เป็นพันธุ์เดียวกัน แต่ในฟอก็อทเทนเรียมส์ (Forgotten Realms settings) พวกเขาจะอยู่ห่างไกลกันมากเป็นสองอาณาจักรที่แยกจากกัน และเรียกตัวเองว่าดวอร์ฟโล่ห์และดวอร์ฟทองคำตามลำดับ

มนุษย์ (Human)

นี่เป็นเรื่องราวของผู้คนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้ซึ่งเมื่อนานมาแล้วได้ล่องเรือสู่ทะเลและแม่น้ำด้วยเรือใหญ่ แรกเริ่มเต็มไปด้วยการปล้นสดมและสร้างความหวาดกลัวต่อมาจึงลงหลักปักฐาน ยังมีพลังมีความรักต่อการผจญภัยในทุกหน้าหนังสือ จนดึกดื่น ลิริเอลยังคงอ่านมันอยู่ หมดเทียนไขเล่มแล้ว เล่มเล่า

เธอไม่เคยสนใจมนุษย์นัก แต่เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เธอประหลาดใจ ในหน้ากระดาษสีเหลืองนวลนี้มีเรื่องราวของผู้กล้า สัตว์ดุร้ายแปลกประหลาด เทพเจ้าโบราณทรงอำนาจ และเวทย์มนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งและเครื่องยึดโยงของดินแดนอันไกลโพ้นนั้น

— เอเลน คันนิ่งแฮม, ธิดาแห่งชาวดราว (Daughter of the Drow)

ในประวัติศาสตร์ของโลกนั้น มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ยังเยาว์ เริ่มมีบทบาทในเวทีโลกในช่วงท้ายและมีอายุสั้นเมื่อเทียบกับดวอร์ฟ เอลฟ์ และมังกร บางทีอาจเพราะช่วงอายุที่สั้นนี้ที่เป็นตัวผลักดันให้พวกเขาไขว่คว้าทุกสิ่งอย่างเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย หรืออาจเพราะพวกเขาต้องการจะพิสูจน์ให้เผ่าพันธุ์ที่เก่าแก่เห็นถึงความสามารถ ซึ่งทำให้พวกเขาสร้างจักรวรรดิที่แข็งแกร่งบนรากฐานของการยึดครองและการค้า อะไรก็ตามที่ผลักดันพวกเขา มนุษย์เป็นนักประดิษฐ์ ผู้สร้างสรรค์และผู้บุกเบิกโลกทั้งหลายนี้

ความหลากหลายทางเชื้อชาติ

ด้วยความชื่นชอบในการย้ายถิ่นฐานและยึดครอง มนุษย์มีรูปลักษณ์ที่หลากหลายกว่าเผ่าพันธุ์อื่น ไม่มีสิ่งที่เรียกได้ว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ละคนอาจจะสูงได้ตั้งแต่ 5 ฟุตถึงเกิน 6 ฟุตไปเล็กน้อย และมีน้ำหนักตั้งแต่ 125 ถึง 250 ปอนด์ สีผิวมีตั้งแต่เกือบดำสนิทไปจนถึงขาวซีด สีผมตั้งแต่ดำขลับไปจนถึงบลอนด์ (เป็นลอนหยักศก, หยิกติดหัว หรือผมตรง) ผู้ชายอาจจะไว้หนวดเคราบาง ๆ หรือดกหนา มนุษย์บางส่วนมีเลือดผสมกับอมนุษย์ทำให้มีลักษณะเด่นของเผ่าพันธุ์นั้นติดมาให้เห็นได้ มนุษย์เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในช่วงปลาย 20 และอยู่ได้ราวหนึ่งศตวรรษ

ความหลากหลายในทุกสิ่ง

มนุษย์เป็นคนที่ปรับตัวได้และมีความทะเยอทะยานมากที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วไป พวกเขามีรสนิยม ศีลธรรม และประเพณีที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางในดินแดนต่าง ๆ มากมายที่พวกเขาได้ตั้งถิ่นฐาน เมื่อพวกเขาตั้งถิ่นฐาน พวกเขาจะปักหลักอยู่: พวกเขาสร้างเมืองให้คงอยู่ตลอดไป และอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่สามารถดำรงอยู่ได้ยาวนานหลายศตวรรษ มนุษย์แต่ละคนอาจมีอายุขัยค่อนข้างสั้น แต่ชาติหรือวัฒนธรรมของมนุษย์ยังคงรักษาประเพณีที่มีต้นกำเนิดไว้ไกลเกินกว่าความทรงจำของมนุษย์คนใดคนหนึ่ง พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ — ทำให้พวกเขาเหมาะสมกับชีวิตนักผจญภัย — แต่ยังวางแผนสำหรับอนาคตด้วยมุ่งมั่นที่จะทิ้งมรดกที่ยั่งยืนไว้ มนุษย์เป็นนักฉวยโอกาสที่ปรับตัวได้ ทั้งในระดับบุคคลและเป็นกลุ่ม และพวกเขาตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม

สถาบันที่ยั่งยืน

ในขณะที่เอลฟ์หรือดวอร์ฟคนหนึ่งจะทำหน้าที่เฝ้าสถานที่หรือความลับที่สำคัญ มนุษย์จะก่อตั้งลัทธิและองค์กรสำหรับจุดประสงค์นั้น ในขณะที่ชนเผ่าดวอร์ฟและผู้อาวุโสฮาล์ฟลิ่งจะส่งประเพณีโบราณจากรุ่นสู่รุ่น มนุษย์เลือกจะสร้างวิหาร รัฐบาล หอสมุด และตรากฏหมายเพื่อให้ประเพณีนิยมได้ฝังรากลงในประวัติศาสตร์ มนุษย์ฝันอยากเป็นอมตะเสมอ แต่ (ยกเว้นพวกที่เดินในหนทางอันเดดหรือขึ้นเป็นเทพเพื่อหลบหนีจากความตาย) พวกเขาบรรลุเป้าหมายนั้นด้วยการเป็นที่จดจำแก่คนรุ่นหลังเมื่อพวกเขาจากไป

แม้มนุษย์บางพวกจะไม่ชอบเผ่าพันธุ์อื่น แต่โดยทั่วไปแล้วสังคมของพวกเขาก็เปิดรับทุกคน เมืองของมนุษย์ต้อนรับเผ่าพันธุ์อื่นเป็นจำนวนมากกว่าเมื่อเทียบกับจำนวนมนุษย์ในเมืองของเผ่าพันธุ์อื่น

แบบอย่างแห่งความทะเยอทะยาน

มนุษย์ที่ออกผจญภัยมีความกล้าหาญและทะเยอะทะยาน พวกเขาแสวงหาความรุ่งโรจน์ในสายตาของผู้ติดตามด้วยอำนาจ ความมั่งคั่ง และชื่อเสียง มนุษย์จะให้ค่ากับแนวความคิดมากกว่าดินแดนหรือกลุ่ม

เพื่อนที่ดีที่สุดคนที่สองของทุกคน

เช่นเดียวกับที่พวกเขามีสังคมมนุษย์ร่วมกัน มนุษย์ก็ปะปนกับสมาชิกของเผ่าพันธุ์อื่น เข้ากับคนได้เกือบทุกคน ถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันมากนักก็ตาม มนุษย์ทำหน้าที่เป็นทูต นักการทูต ผู้พิพากษา พ่อค้า และผู้ปฏิบัติงานทุกประเภท

ดวอร์ฟ “พวกเขาเตี้ยล่ำ เป็นเพื่อนที่เชื่อถือได้ และซื่อสัตย์ แต่ความโลภในทองคำเป็นจุดอ่อนของพวกเขา”

เอลฟ์ “มันจะดีมากถ้าไม่เข้าไปเพ่นพ่านในป่าของพวกเอลฟ์ พวกเขาไม่ชอบผู้บุกรุก และเจ้าจะพรุนเป็นรังผึ้งด้วยลูกธนูของพวกนั้นแน่ แต่ก็นะ ถ้าพวกเอลฟ์จะลืมเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีไปบ้างและปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเท่าเทียมแล้วหละก็ เจ้าจะได้เรียนรู้อะไรเยอะเลยหละ”

ฮาล์ฟลิ่ง “มันยากมากที่จะปฏิเสธอาหารมากมายสูงเท่าเพดานกับเรื่องราวสนุกสนานหน้าเตาผิงอันอบอุ่นนั่น ถ้าฮาล์ฟลิ่งมีความทะเยอะทะยานแม้สักน้อย พวกเขาอาจจะทำอะไรมากมายเลยทีเดียว”

ชื่อของมนุษย์และวัฒนธรรม

ด้วยการที่มีความหลากหลายในวัฒนธรรม มนุษย์โดยรวมแล้วไม่มีระบบชื่อเป็นของตัวเอง พ่อแม่บางคนก็ให้ลูกใช้ชื่อจากภาษาอื่น เช่นดวาฟวิชหรือเอลวิช (ออกเสียงถูกบ้างผิดบ้าง) แต่พ่อแม่ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมในพื้นที่หรือชื่อจากประเพณีของบรรพบุรุษของตน

วัฒนธรรมและรูปลักษณ์ของมนุษย์อาจแตกต่างกันมากในแต่ละท้องถิ่น ในดินแดนที่ถูกลืม (Forgotten Realms) เป็นตัวอย่าง เสื้อผ้า สถาปัตยกรรม อาหาร ดนตรีและวรรณกรรมจะแนกต่างกันระหว่างดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซิลเวอร์มาร์ช กับดินแดนห่างไกลอย่างเทอร์มิช หรืออิมพิลเจอร์ทางตะวันออก และยิ่งแตกต่างออกไปมากในพื้นที่ห่างไกลอย่างคารา-เทอร์ รูปลักษณ์ของมนุษย์ก็เช่นกัน แตกต่างกันจากการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ในยุคแรกซึ่งนั่นทำให้มนุษย์ในซิลเวอร์มาร์ชมีรูปร่างแตกต่างกับที่อื่นทั้งสีผิวและร่างกาย

ในดินแดนที่ถูกลืม (Forgotten Realms) มีกลุ่มชาติพันธุ์ 9 กลุ่มที่เป็นที่รู้จักหลัก ๆ แม้ว่าจะมีมากกว่าโหลที่พบในเฟรูน แต่กลุ่มเหล่านี้และลักษณะชื่อของสมาชิกก็สามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจได้ไม่ว่ามนุษย์ของคุณจะอยู่ในโลกไหน

คาลิไชท์ (Calishite)
ร่างเล็กและเพรียวกว่ามนุษย์กลุ่มอื่น คาชิไชท์มีผิว ผม และตาสีน้ำตาลหม่น พบได้ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเฟรูน

ชื่อคาลิไชท์: (ชาย) เอเซีย, บาร์เดอิด, ฮาเซอิด, เคฮ์เมด, เมฮ์เมด, ซูไดมาฮ์น, ซาเชีย (หญิง) อะตาลา, เซดิล, ฮามา, แจสมาล, เมย์ลิล, เซโพรา, ยาเชียรา, ซาเชียดา (สกุล) บาซา, ดูเมอิน, แจสซัน, คาฮ์ลิด, มอสตานา, พาชาร์, เรน

ชนดาธาน (Chondathan) ชนดาธานมีรูปร่างผอมเพรียว ผิวสีน้ำตาลอ่อนผมสีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ มีผมบลอนด์ถึงดำด้วย ส่วนใหญ่จะตัวสูงและมีตาสีเขียวหรือสีน้ำตาล ชนชาวชนดาธานครอบครองดินแดนตอนกลางของเฟรูน บริเวณทะเลด้านใน (Inner Sea)

ชื่อของชาวชนดาธาน: (ชาย) ดาร์วิน, ดอร์น, เอฟเวนเดอร์, กอร์สแต็ก, กริม, เฮล์ม, มาลาร์ค, มอร์น, แรนดัล, สเต็ด (หญิง) อาร์วีเน่, เอสเวล, เจสเซล, เคอรี่, ลูรีเน่, มิริ, โรวาน, แชนดริ, เทสเซล (สกุล) แอมเบิลคราวน์, บัคแมน, ดันดรากอน, เอเวนวูด, เกรย์แคสเซิล, ทอลสแต็ก

ดามารัน (Damaran)
มีหลักแหล่งอยู่ในแถบตะวันตกเฉียงเหนือของเฟรูน ชาวดามารันมีรูปร่างปานกลางและล่ำสัน สีผิวมีตั้งแต่น้ำตาลออกส้มจนถึงขาว ผมมักจะสีน้ำตาลหรือดำ สีตาหลากหลายส่วนมากจะสีน้ำตาล

ชื่อชาวดามารัน: (ชาย) บอร์, โฟเดล, กลาร์, กริกอร์, อิกาน, อิวอร์, โคเซฟ, มิวาล, โอเรล, พาเวล, เซอร์กอร์ (หญิง) อาเลธรา, คารา, คาเทอนิน, มารา, นาตาลี, ออลมา, ทานา, โซรา (สกุล) เบิส์ค, เชอร์นิน, โดส์ค, คุเลนอฟ, มาสค์, เนเมทส์, เชมอฟ, สตารัก

อิลลัสคาน (Illuskan)
ชาวอิลลัสคานมีร่างกายสูงใหญ่ ผิวขาว ตาสีฟ้าหรือสีเทาเหล็ก มักจะมีผมสีดำเหมือนขนกา แต่พวกที่อาศัยอยู่สุดดินแดนทางเหนือจะมผลบลอนด์ แดง หรือน้ำตาลอ่อน

ชื่อชาวอิลลัสคาน: (ชาย) แอนเดอร์, บลาธ, แบรน, ฟราธ, เก็ธ, แลนเดอร์, ลูธ, มัลเซอร์, สตอร์, ทามัน, เอิร์ธ (หญิง) อามาเฟรย์, เบธา, เซเฟรย์, เคธรา, มารา, โอลกา, สิริเฟรย์, เวสตรา (สกุล) ไบรทวูด, เฮลดาร์, ฮอร์นราเวน, แล็คแมน, สตอร์มวินด์, วินดริฟเวอร์

มูลาน (Mulan)
ครองพื้นที่แถบตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ชายฝั่งของทะเลด้านใน (Inner Sea) ชาวมูลานทั่วไปจะสูง ผอม และมีผิวสีอัมพัน ตาสีเฮเซลหรือน้ำตาล สีผมมีตั้งแต่ดำจนถึงน้ำตาลเข้ม แต่ในพื้นที่มีชาวมูลานอาศัยอยู่มาก ชนชั้นสูงและที่เกี่ยวข้องมักจะโกนหัว

ชื่อชาวมูลาน: (ชาย) โอธ, บาเรริส, เอพุต-ไค, เคธอท, มูเม็ด, รามาส, โซ-เคเฮอร์, ธาซา-เด, อูร์เฮอร์ (หญิง) อาริซิมา, ชาธี, เนฟิส, นูลาร่า, มูริธิ, เซฟริส, โธลา, อูมาร่า, โซลิส (สกุล) อังคาลับ, อันสคูลด์, เฟซิม, ฮาเพ็ต, นาธาเดม, เซเพรท, อูธราค

ราเชมี (Rashemi)
ส่วนใหญ่จะพบในแถบตะวันออกของทะเลด้านใน (Inner Sea) และมักจะอยู่ร่วมกับชาวมูลาน ราเชมีมักจะตัวเตี้ยล่ำและมีกล้ามเนื้อ พวกเขามักจะมีผิวสีเข้ม ตาสีดำและมีผมหนาสีดำ

ชื่อราเชมี: (ชาย) บอริวิค, เฟอการ์, จันดาร์, คนิฐา, มาดิสลัค, รัลเมวิค, เชามาร์, วลาดิสลาค (หญิง) เฟย์วารา, ฮัลมารา, อิมมิธ, อิมเซล, นาวารา, เชวารา, ทัมมิธ, ยูลดรา (สกุล) เชอร์โกบาร์, ไดเออร์นีนา, อิลทาซิลรา, เมอนิเอ็ททรา, สตายาโนกา, อูลโมคินา

โช (Shou)
ชาวโชมีจำนวนมากที่สุดและเป็นชาติพันธุ์ที่มีอำนาจมากในคารา-เทอ (Kara-Tur), ดินแดนห่างไกลทางตะวันออกของเฟรูน พวกเขามีผิวสีทองสัมฤทธ์ ผมดำ ตาสีเข้ม ชื่อจะใช้นามสกุลนำ

ชื่อของชาวโช: (ชาย) อัน, เชง, ชิ, ไฟ, เจียง, จุน, เหลียน, หลง, เม็ง, ออน, ซาน, ซุย, เว็น (หญิง) ไบ๋, โฉ, เจี่ย, เหลย, เหมย, เคียว, ซุย, ไท (สกุล) เฉียน, หวง, เกา, คุง, เหลา, หลิง, เหม, พิน, ชิน, ซัม, ตัน, วาน

เทธีเรียน (Tethyrian)
กระจายอยู่ตลอดทั้งชายฝั่งดาบ (Sword Coast) สุดขอบตะวันตกของเฟรูน เทธีเรียนมีรูปร่างขนาดกลางผิวคล้ำแต่ก็เริ่มขาวขึ้นเมื่ออาศัยอยู่ทางเหนือขึ้นไป สีผมและสีตาแตกต่างกันไปแต่ส่วนใหญ่จะผมสีน้ำตาลและตาสีฟ้า เทธีเรียนใช้ชื่อแบบเดียวกับชาวชนดาธาน

ทูรามิ (Turami)
เป็นชนพื้นเมืองแถบชายฝั่งทางใต้ของทะเลด้านใน (Inner Sea) ชาวทูรามิตัวสูงใหญ่มีกล้าม ผิวเข้มสีมะฮ็อคกานี ผมเป็นลอนสีดำและมีตาสีเข้ม

ชื่อชาวทูรามิ: (ชาย) แอนทอน, ดิเอโร, มาร์คอน, ปิเอรอน, ริมาร์โด, โรเมโร, ซาลาซา, อัมเบโร (หญิง) บาลามา, โดนา, ไฟลา, จาลานา, หลุยซา, มาร์ตา, ควารา, เซลิเซ, วอนดา (สกุล) อากอสโต, แอสโตริโอ, คาลาบรา, โดมิเน, ฟาโลเน, มาริวาลดิ, พิซาคาร์, รามอนโด

คุณลักษณะของมนุษย์อีกแบบ (VARIANT HUMAN TRAITS)

ถ้าแคมเปญของคุณใช้กฏเสริมของคุณลักษณะพิเศษจากบทที่ 6 DM ของคุณอาจจะอนุญาตให้ใช้คุณลักษณะ (traits) พิเศษนี้แทนคะแนนความสามารถปกติของเผ่าพันธุ์มนุษย์

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น ให้ความสามารถที่ต่างกัน 2 ชนิดตามที่คุณเลือกมีคะแนนเพิ่มขึ้น 1 แต้ม

ทักษะ คุณได้ความเชี่ยวชาญในทักษะที่คุณเลือก 1 ทักษะ

คุณลักษณะพิเศษ (feat) คุณได้รับคุณลักษณะพิเศษเพิ่ม 1 อย่างตามที่คุณเลือก

คุณลักษณะของมนุษย์ (Human Traits)

มันยากที่จะระบุได้ชัดเจนเกี่ยวกับมนุษย์ แต่ตัวละครมนุษย์ของคุณมีคุณลักษณะพิเศษดังนี้

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความสามารถทุกด้านของคุณเพิ่ม 1 แต้ม

อายุ มนุษย์จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่อเข้า 20 และมีชีวิตอยู่เกือบศตวรรษ

ขนาด มนุษย์มีความสูงและรูปร่างต่างกันไป จาก 5 ฟุตถึงเกิน 6 ฟุตเล็กน้อย ตัวละครจะมีขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเดินปกติของคุณคือ 30 ฟุต

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอน และภาษาอื่นอีก 1 ภาษา มนุษย์มักจะเรียนภาษาอื่นจากคนที่ต้องติดต่อด้วย พวกเขาชอบจะเอาภาษาอื่นมาใช้เวลาพูดคุย คำสบถของอ็อค การอธิบายดนตรีแบบเอลฟ์ วลีทางทหารของดวอร์ฟ และอื่น ๆ

ดวอร์ฟ (Dwarf)

“มาสายนะเจ้าเอลฟ์!” มาพร้อมกับเสียงห้าวดังที่คุ้นเคย บรูเอนอร์ แบทเทิลแฮมเมอร์ เดินขึ้นมาเหยียบหลังศัตรูที่นอนตาย โดยไม่สนว่ามอนสเตอร์ตัวใหญ่นั้นนอนทับเพื่อนเอลฟ์ของเขาอยู่ แม้จะหนักที่โดนทับแต่เมื่อได้เห็นจมูกชี้ที่มักจะหักบ่อย ๆ หนวดเคราสีแดงเพลิงที่ตอนนี้มีหงอกแซมก็เป็นภาพที่น่าดีใจแก่ดริซเมื่อได้เห็น “นึกแล้วเชียวว่าต้องทำเรื่องยุ่งยากทุกที่ที่ข้าออกมาตามหาเจ้าเนี่ย”

— อาร์. เอ. ซัลวาทอร์, เดอะคริสตัลชาร์ด (The Crystal Shard)

อาณาจักรสมบูรณ์ด้วยความสง่างามโอ่อ่า โถงอาคารแกะสลักเข้าไปใจกลางในขุนเขา เสียงสิ่วและค้อนกังวาลก้องในเหมืองลึกและโรงเหล็กไฟแดงฉาน ความตั้งมั่นในเผ่าและจารีต ความเกลียดชังก๊อบลินและอ็อคอย่างที่สุด สิ่งเหล่านี้ผูกพันชาวดวอร์ฟทั้งมวลไว้

เตี้ยและล่ำ

กล้าหาญและแข็งแกร่ง ดวอร์ฟเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นนักรบมากทักษะ คนทำเหมือง และช่างฝีมือในงานหินและโลหะ แม้จะสูงไม่ถึง 5 ฟุต แต่ดวอร์ฟก็มีร่างใหญ่กระทัดรัดมีน้ำหนักพอ ๆ กับมนุษย์ที่สูงมากกว่า 2 ฟุต ความกล้าหาญและความทนทานยังทำให้สูสีกับเผ่าอื่น ๆ ที่ตัวใหญ่กว่า

ผิวของชาวดวอร์ฟมีหลากสีจากน้ำตาลเข้มถึงสีออกขาว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีแทนเข้ม เหมือนสีของพื้นโลก ผมยาวไม่ตบแต่ง มักจะสีดำ เทา หรือน้ำตาล ดวอร์ฟผิวสีออกขาวมักจะมีผมแดง ดวอร์ฟชายจะให้ความสำคัญกับหนวดเครามากและจะดูแลอย่างระมัดระวัง

ความจำดี ความแค้นก็จำได้ดี

ดวอร์ฟสามารถอยู่ได้ถึง 400 ปี เพราะฉะนั้นดวอร์ฟสูงอายุจึงผ่านโลกมาอย่างโชกโชน ตัวอย่างเช่น ดวอร์ฟชราบางคนที่อยู่ในช่วงวิหารเฟลบาร์ (Citadel Felbarr) สามารถจะจำเรื่องราวย้อนไปถึง 3 ศตวรรษ เรื่องราวเมื่อตอนที่อ็อคบุคยึดป้อมปราการและขับไล่พวกเขาออกไปเป็นคนพลัดถิ่นเป็นเวลานานถึง 250 ปี อายุที่ยืนยาวนี้ทำให้มุมมองของพวกเขาต่อโลกมีหลากหลาย เป็นสิ่งที่เผ่าพันธุ์ที่มีช่วงอายุสั้นขาดไป

ดวอร์ฟเป็นคนมั่นคงและอดทนเหมือนภูเขาที่พวกเขารัก ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและสม่ำเสมอ พวกเขาเคารพประเพณีของเผ่าที่นับถือกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งชุมชนตั้งแต่สมัยที่โลกยังเยาว์ และไม่ละทิ้งประเพณีง่าย ๆ ส่วนหนึ่งของประเพณีคือการอุทิศตนให้กับเทพเจ้าของชาวดวอร์ฟ ผู้ปลูกฝังความเป็นคนทำงานอุตสาหะ ทักษะในการต่อสู้ และการอุทิศตนแก่โรงหลอมเหล็ก

ดวอร์ฟเป็นคนมุ่งมั่นและซื่อสัตย์ ทำตามคำพูดและเฉียบขาดในสงคราม บางทีก็มากไปจนเป็นความดื้อรั้น ดวอร์ฟส่วนใหญ่มียึดมั่นกับความยุติธรรมอย่างมาก ถ้าใครทำให้เจ็บใจจะจำไม่ลืม ทำร้ายดวอร์ฟคนหนึ่งเท่ากับทำกับทั้งเผ่า จึงเป็นเรื่องปกติที่ดวอร์ฟคนหนึ่งพยายามแก้แค้นแต่กลับเป็นสงครามใหญ่โตโดยคนทั้งเผ่า

เผ่าและอาณาจักร

อาณาจักรดวอร์ฟอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาเป็นที่ที่จะทำเหมืองขุดหาอัญมณีและแร่โลหะเพื่อนำมาทำเป็นของล้ำค่า พวกเขาชอบความสวยงามและศิลปะของโลหะมีค่าและเครื่องประดับ และกับบางคนความรักนี้ก่อตัวเป็นความโลภ สิ่งล้ำค่าใดที่หาไม่ได้จากการขุดภูเขาก็จะต้องได้มาจากการค้าขาย พวกเขาไม่ชอบเรือดังนั้นก็มักจะมีมนุษย์และฮาล์ฟลิ่งเป็นคนจัดการการค้าทางน้ำให้ คนเผ่าอื่นที่เชื่อถือได้จะได้รับการต้อนรับอย่างดีในบ้านของดวอร์ฟ บางทีก็ดีจนเกินไป

หน่วยสังคมหลักของดวอร์ฟคือเผ่า และพวกเขาให้คุณค่าแก่เผ่ามาก แม้จะอยู่ห่างจากอาณาจักรแต่พวกเขาจะรักษาอัตลักษณ์ของเผ่าของตนไว้อย่างเหนียวแน่น ให้เกียรติเผ่าอื่น และจะเอ่ยถึงชื่อของบรรพบุรุษในการสาบานและสาปแช่ง การโดนเนรเทศจากเผ่าถือเป็นชะตากรรมอันหนักหนาสำหรับดวอร์ฟ

ในด้านอื่น ดวอร์ฟถือเป็นช่างฝีมือโดยเฉพาะงานด้านอาวุธ เกราะ และเครื่องประดับ บางคนเป็นทหารรับจ้างหรือบอดี้การ์ดที่ถือว่ามีความสามารถและความซื่อสัตย์อย่างมาก

เทพเจ้า ทอง และเผ่า

ดวอร์ฟที่เลือกชีวิตการผจญภัยอาจจะมีแรงบันดาลใจจากสมบัติ จากตัวทรัพย์สินเอง จากเหตุผลเฉพาะตัวหรือแม้แต่ความต้องการช่วยผู้อื่น บางคนอาจจะถูกผลักดันโดยคำสั่งหรือโดยเทพดลใจไม่ว่าจะมาบอกตรง ๆ หรือเพื่อความรุ่งโรจน์ของเทพเจ้าที่นับถือ เผ่าและบรรพบุรุษก็เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญ บางคนอาจจะหาทางที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของเผ่า แก้แค้นคนที่ทำไม่ดีแก่เพื่อนพ้องหรือเพื่อให้ได้กลับสู่เผ่าหลังจากโดนเนรเทศ หรืออาจจะกำลังค้นหาขวานที่เคยเป็นของบรรพบุรุษที่หายไปในสงครามเมื่อหลายศตวรรษก่อน

นานกว่าจะเชื่อใจ

ดวอร์ฟอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่นได้ดี “ความแตกต่างระหว่างคนรู้จักกับเพื่อนก็แค่เวลาไม่กี่ร้อยปีเอง” เป็นคำพูดที่มักจะได้ยิน แสดงให้เห็นว่ายากแค่ไหนที่ดวอร์ฟจะเป็นเพื่อนกับใครหรือทำให้ดวอร์ฟเชื่อใจได้

เอลฟ์ “มันไม่ฉลาดเลยที่จะพึ่งเอลฟ์ บอกไม่ได้เลยว่าเอลฟ์จะทำอะไรต่อไป เมื่อค้อนไปกระทบหัวของออร์ค อาจจะเริ่มร้องเพลงพร้อมกับชักดาบออกมา พวกมันขี้เล่นและเปลี่ยนใจง่าย มีสองอย่างที่จะพูดได้ถึงพวกนี้: พวกเอลฟ์มีช่างตีเหล็กไม่มากนัก แต่ช่างฝีมือของพวกเขาทำงานได้ดีมาก และเมื่อออร์คหรือก็อบลินไหลลงมาจากภูเขา มันจะดีมากถ้ามีเอลฟ์อยู่กับเจ้าด้วยแค่อาจจะไม่ดีเท่าดวอร์ฟ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนั้นเกลียดออร์คมากเท่ากับพวกเรา”

ฮาล์ฟลิ่ง “แน่นอน พวกนั้นครื้นเครงดี แต่ชีให้ข้าเห็นหน่อยว่ามีฮีโร่ฮาล์ฟลิ่ง อาณาจักร กองทัพเกรียงไกร ไม่งั้นก็สมบัติที่สร้างขึ้นจากมือของพวกฮาล์ฟลิ่ง ไม่มีเลย แล้วแบบนี้จะไปจริงจังอะไรได้”

มนุษย์ “เจ้าใช้เวลาทำความรู้จักกับมนุษย์ แล้วเผลอประเดี๋ยวเดียวเขาก็ตายไปแล้ว ถ้าโชคดีพวกเขาก็จะมีลูกมีเต้า มีลูกสาวหรือหลานสาว บางทีก็มีจิตใจดีเหมือนเธอ นั่นเป็นเวลาที่เจ้าจะมีเพื่อนเป็นมนุษย์ และก็มองพวกเขาจากไป พวกเขาจะออกไปผจญภัยตามหาสิ่งที่ต้องการ อาจจะไปลุยกับฝูงมังกรหรือชิงบัลลังก์อาณาจักร เจ้าต้องชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขา แม้ว่ามันมักจะทำให้พวกเขาเจอแต่ปัญหาก็เถอะ”

ชื่อของดวอร์ฟ

ดวอร์ฟจะได้ชื่อจากผู้อาวุโสในเผ่าเป็นคนตั้งให้ตามประเพณี ชื่อดวอร์ฟจะถูกใช้และใช้ซ้ำตกทอดกันมาในแต่ละรุ่น ชื่อเป็นสมบัติของเผ่าไม่ได้เป็นของบุคคล ดวอร์ฟที่ทำตัวไม่ดีหรือนำความเสื่อมเสียมาให้เผ่าจะถูกตัดชื่อทิ้งและห้ามนำชื่อนั้นมาใช้อีก

ชื่อชาย: อาดริก, อัลเบริช, บาเอิร์น, บาร์เรนด์, บร็อทเตอร์, บรูเอนอร์, ดาอิน, ดาร์แรค, เดลก์, เอเบอร์ก, เออินคิล, ฟาร์กริม, ฟลินท์, การ์เดน, ฮาร์เบ็ค, คิลแดร็ค, มอร์แกรน, ออร์สิค, ออสคาร์, แรงกริม, รูริค, ทาคลิน, โธราดิน, ธอริน, ทอร์เด็ก, เทราบอน, ทราวอค, อลัฟการ์, เว็ต, วอนดัล

ชื่อหญิง: แอมเบอร์, อาร์ทิน, อูดิล, บาร์ดริน, แดกนาล, ไดซ่า, เอลเดธ, ฟาลครุน, ฟิเนลเลน, กุนโลดา, เกอร์ดิส, เฮลจา, ลิน, เคธรา, คริสทริด, อิลเด, ลิฟทราซา, มาร์เดร็ด, ริสวิน, เซน, ทอเบรา, ท็อกกา, วิสทรา

ชื่อเผ่า: บัลเดิร์ก, แบ็ทเทิลแฮมเมอร์, บราวนันวิล, แดนคิล, ไฟเออร์ฟอร์จ, ฟรอสเบียร์ด, โกรุน, โฮลเดอร์เฮก, ไอรอนฟิส, โลเดอร์, ลุทเกอร์, รุมนาไฮม์, สตราเคล์น, ทอร์รุน, อุนการ์ต

คุณลักษณะของดวอร์ฟ

ดวอร์ฟของคุณมีความสามารถติดตัวหลายอย่างมาตั้งแต่เกิดและได้จากการฝึกฝนในเผ่า

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความอึด [Constitution] เพิ่มขึ้น 2 คะแนน

อายุ ดวอร์ฟโตเป็นผู้ใหญ่ในอัตราเดียวกับมนุษย์ แต่ก็ถือเป็นวัยรุ่นจนกระทั่งอายุ 50 ปี โดยเฉลี่ยแล้วพวกเขามีชีวิตอยู่ได้ราว 350 ปี

ขนาด ดวอร์ฟมีความสูงระหว่าง 4 - 5 ฟุต น้ำหนักเฉลี่ย 150 ปอนด์ เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเคลื่อนที่ของคุณคือ 25 ฟุต ความเร็วจะไม่ลดแม้จะใส่ชุดเกราะหนัก

ดาร์กวิชัน เพราะต้องอาศัยอยู่ใต้ดิน คุณมีการมองเห็นในที่มืดและที่แสงน้อย คุณสามารถมองเห็นได้ในที่แสงน้อยภายในระยะ 60 ฟุต มองเห็นเหมือนอยู่ในที่แสดงปกติ และมองในที่มืดเหมือนมองในที่แสงน้อย คุณไม่สามารถแยกสีได้ในความมืด มองเห็นได้เป็นแค่เฉดสีเทา

ความทนทานแบบชาวดวอร์ฟ คุณจะได้ทอยแอดแวนเทจ (advantage: ทอย d20 2 ลูก เอาแต้มมากสุด) เมื่อต้องทอยป้องกัน (saving throw) เวลาถูกพิษ และคุณจะมีความต้านทานพิษ (resistance: ลดความเสียหายครึ่งหนึ่ง) (อธิบายในบทที่ 9 “การต่อสู้”)

การฝึกฝนการต่อสู้แบบดวอร์ฟ คุณมีความเชี่ยวชาญการใช้ขวานศึก [battleaxe], ขวานมือ [handaxe], ค้อนเบา [light hammer] และค้อนศึก [warhammer]

ความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือ คุณมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องมือช่างศิลป์ตามที่คุณเลือก เครื่องมือตีเหล็ก เครื่องมือทำเบียร์ หรือเครื่องมือแกะสลักหิน

ผู้รอบรู้ด้านงานหิน เมื่อใดก็ตามที่ต้องทดสอบความรู้ทางประวัติศาสตร์ [Intelligence (History) check] ที่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของงานหิน คุณถือได้ว่ามีความเชี่ยวชาญในทักษะด้านประวัติศาสตร์และเพิ่มค่าโบนัสความชำนาญเป็น 2 เท่าในการเช็คได้แทนที่จะใช้โบนัสความชำนาญปกติ

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษากลาง [Common] และดาร์ฟวิช [Darvish] ซึ่งเป็นภาษาที่มีเสียงตัวควบกล้ำชัดและออกเสียอยู่ในคอ ลักษณะแบบนี้ปรากฏในเวลาที่ดวอร์ฟพูดในภาษาอื่นด้วย

เผ่าย่อย ดวอร์ฟมีเผ่าย่อย 2 เผ่าในโลกของ D&D คือดวอร์ฟเชิงเขา [Hill dwarves] และดวอร์ฟภูเขา [Mountain dwarves] เลือกได้จากสองเผ่านี้

ดูเออการ์

ในเมืองใต้โลกที่ชื่ออันเดอร์ดาร์กมีดูเออการ์อาศัยอยู่ หรือเรียกว่าดวอร์ฟเทา หลังจากหลายศตวรรษที่ถูกจับและทรมานโดยพวกมายด์เฟลเยอร์ [mind flayers] พวกเขาก็ได้มีความสามารถทางเวทมนต์เกิดขึ้น เป็นความสามารถในการ ล่องหน และขยายขนาดให้ใหญ่ได้ชั่วคราว

ดวอร์ฟเชิงเขา (Hill Dwarf)

เมื่อเป็นดวอร์ฟเชิงเขา [ฮิลดวอร์ฟ] คุณจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคม มีภาวะหยั่งรู้ลึก และมีความระมัดระวังตัวสูง ดวอร์ฟทองคำของเฟรูนที่อยู่ในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ทางใต้คือดวอร์ฟเชิงเขา เหมือนกับเหล่าผู้ถูกเนรเทศเนย์ดาร์และชาวคลาร์แห่งครินในจักรวาลดรากอนแลนซ์

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความหยั่งรู้ [Wisdom] ของคุณเพิ่มขึ้น 1

ความอึดแบบดวอร์ฟ. ฮิตพอยต์สูงสุดเพิ่มขึ้น 1 แต้มและจะเพิ่ม 1 แต้มทุก ๆ เลเวล

ดวอร์ฟภูเขา (Mountain Dwarf)

เมื่อเป็นดวอร์ฟภูเขา คุณจะแข็งแรงและอึดเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในในสภาพพื้นที่ที่มีอุปสรรค คุณจะสูงกว่าดวอร์ฟทั่วไปและผิวสีอ่อนกว่า พวกดวอร์ฟโล่ห์แห่งตอนเหนือของเฟรูน เช่นเดียวกับที่ปกครองเผ่าไฮลาร์และเผ่าเดวาในดรากอนแลนซ์ทั้งหมดเป็นดวอร์ฟภูเขา

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความแข็งแกร่ง [Strength] เพิ่มขึ้น 2

การฝึกฝนด้านเกราะของดวอร์ฟ คุณมีความเชี่ยวชาญในการใช้เกาะอ่อนและเกราะขนาดกลาง (light and medium armor)

ฮาล์ฟลิง (Halfling)

ฮาล์ฟลิงเรกิส เป็นฮาล์ฟลิงคนเดียวในรัศมีร้อยไมล์ ผสานมือกันรองหัวไว้แล้วเอนนอนไปบนต้นไม้ล้มที่มีมอสขึ้นหนานุ่ม เรกิสตัวเตี้ย แม้จะตามมาตรฐานของเผ่าพันธุ์ที่ตัวเล็กของเขา ผมหยิกสีน้ำตาลบนร่างที่สูงไม่ถึง 3 ฟุต แต่พุงของเขาก็ใหญ่หนาจากความชื่นชอบอาหารโอชะตามโอกาสจะอำนวย กิ่งไม้คดเคี้ยวที่ใช้เป็นคันเบ็ดพาดอยู่เหนือลำตัวโดยเอาหัวแม่เท้าทั้งสองหนีบไว้ เบ็ดหย่อนลงในทะเลสาปอันเงียบสงบ น้ำใสสะท้อนดั่งกระจกแห่งเมียร์ดูอัลดอน

— อาร์.เอ. ซัลวาทอร์, เดอะ คริสตัลชาร์ด (The Crystal Shard)

ความเป็นอยู่อย่างสบายเป็นเป้าหมายหลักของชีวิตฮาล์ฟลิง บนดินแดนที่สงบและสันติ ห่างไกลจากมอนสเตอร์บ้าคลั่งและการรบพุ่ง กองไฟสว่างไสวและอาหารชั้นเลิศ เครื่องดื่มรสนุ่มและการสนทนาที่ครื้นเครง แม้ฮาล์ฟลิงบางคนจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในชุมชนชนบททำเกษตร บางกลุ่มก็ออกเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อย ถูกล่อด้วยถนนทอดยาวสุดขอบฟ้าออกเดินทางค้นหาสิ่งมหัศจรรย์ ผู้คนและสถานที่แปลกใหม่ แม้จะเป็นนักเดินทางเช่นนั้นแต่ก็ยังชอบความสงบสุข อาหาร ความอบอุ่นและบ้าน แม้ว่าบ้านจะเป็นรถลากที่เคลื่อนที่ไปบนถนนดินขรุขระหรือแพที่ลอยไปตามกระแสน้ำ

ตัวเล็กและเป็นนักปฏิบัติ

ฮาล์ฟลิงตัวเล็กเอาตัวรอดในโลกที่มีแต่สิ่งมีชีวิตตัวใหญ่กว่าด้วยการหลบเลี่ยงหรือหลีกหนีการเผชิญหน้า ความสูงเมื่อยืนประมาณ 3 ฟุต พวกเขาดูไม่มีพิษภัยและนั่นทำให้อยู่รอดมาได้หลายศตวรรษภายใต้เงาของจักรวรรดิ อยู่รอดพ้นสงครามและความขัดแย้งทางการเมือง พวกเขามักจะมีร่างท้วม น้ำหนักระหว่าง 40 - 45 ปอนด์

สีผิวของฮาล์ฟลิงอยู่ระหว่างสีแทนจนถึงขาวมีสีเลือดฝาด และผมมักจะเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอ่อนเป็นลอน มีตาสีน้ำตาลหรือสีเฮเซล ผู้ชายไว้จอนยาวแต่มักไม่ไว้เคราแต่ไว้หนวดกัน พวกเขาชอบใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ง่าย ๆ ใส่ทำงานสะดวก และชอบสีสดใส

การเป็นนักปฏิบัติของฮาล์ฟลิงไม่ได้แสดงออกทางเสื้อผ้าอย่างเดียว พวกเขามักคิดถึงความต้องการพื้นฐานและชอบความสุขเรียบง่าย และไม่ชอบโอ้อวด แม้แต่ฮาล์ฟลิงที่ร่ำรวยก็เก็บสมบัติเอาไว้แต่ในห้องใต้ดินมากกว่าจะนำมาแสดงให้คนอื่นเห็น พวกเขามักจะมุ่งเน้นไปที่การหาทางแก้ไขที่ง่ายที่สุดให้กับทุกปัญหา ไม่ชอบให้อะไรค้างคา

ใจดีและใฝ่รู้

ฮาล์ฟลิงเป็นคนสุภาพและร่าเริ่ง พวกเขาทะนุถนอมสายสัมพันธ์ของครอบครัวและมิตรสหายเช่นเดียวกับความสบายและอบอุ่นในบ้าน มีบ้างที่ฝันถึงทองและความรุ่งโรจน์ แม้แต่นักผจญภัยในหมู่พวกเขาก็ออกผจญภัยด้วยเหตุผลของชุมชน มิตรภาพ อยากไปท่องเที่ยวหรือแค่อยากรู้อยากเห็น พวกเขารักในการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ แม้แต่ของพื้น ๆ อย่างอาหารที่ไม่เคยกินหรือเสื้อผ้าที่แปลกตาก็ทำให้ตื่นเต้นได้แล้ว

ฮาล์ฟลิงจะอารมณ์อ่อนไหว ขี้สงสารและไม่ชอบที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตต้องเจ็บปวด พวกเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยินดีที่จะแบ่งปันสิ่งที่มีแม้ในยามยากลำบาก

ผสมผสานเข้ากับชุมชน

ฮาล์ฟลิงสามารถปรับตัวให้เข้ากับชุมชนของมนุษย์ ดวอร์ฟ หรือเอลฟ์ ทำตนเองให้มีคุณค่าและเป็นที่ยอมรับ ด้วยความที่สามารถหลบซ่อนได้เก่งและรอบคอบเสมอเป็นธรรมชาติ สิ่งนี้ช่วยให้ฮาล์ฟลิงหลีกเลี่ยงการตกเป็นที่สนใจได้

ฮาล์ฟลิงทำงานอย่างขยันขันแข็งกับคนอื่น และพวกเขาซื่อสัตย์กับเพื่อนไม่ว่าจะเป็นฮาล์ฟลิงด้วยกันหรือเผ่าพันธุ์อื่น พวกเขาจะแสดงออกถึงความกล้าหาญอย่างน่าประทับใจเมื่อเพื่อน ครอบครัว หรือชุมชนตกอยู่ในอันตราย

ความสุขแบบชาวบ้าน

ฮาล์ฟลิงส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในชุมชนเล็กที่สงบสุข มีฟาร์มขนาดใหญ่และสวนผลไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี น้อยมากที่จะสร้างอาณาจักรขนาดใหญ่ของตนเองหรือแม้จะครอบครองที่ดินกว้างเกินกว่าหมู่บ้านที่สงบของพวกเขา ปกติแล้วจะไม่สนใจเรื่องชนชั้นหรือราชวงศ์ แต่จะให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสในครอบครัว ครอบครัวเป็นสิ่งที่รักษาประเพณีไว้แม้จักรวรรดิ์จะรุ่งเรืองหรือล่มสลาย

ฮาล์ฟลิงมากมายอาศัยอยู่กับเผ่าพันธุ์อื่น การทำงานหนักและซื่อสัตย์ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อพร้อมด้วยความสะดวกสะบาย ชุมชนฮาล์ฟลิงบางกลุ่มถือเอาการเดินทางเป็นวิถีของชีวิต ขับรถลากหรือล่องเรือไปจากที่หนึ่งสู่ที่หนึ่งโดยไม่ได้ลงหลักปักฐานที่ใด

โอกาสในการท่องโลก

ฮาล์ฟลิงมักจะเลือกออกผจญภัยเพื่อป้องกันชุมชนของตน ช่วยเหลือเพื่อน หรือเพื่อการท่องโลก สำหรับพวกเขา การผจญภัยไม่ได้เป็นอาชีพจริงจัง จะถือเป็นโอกาสในการทำสิ่งที่จำเป็นมากกว่า

สุภาพและคิดบวก

ฮาล์ฟลิงพยายามจะเข้ากับทุกคนให้ได้และมักจะพูดแบบอ้อม ๆ ถ้าไม่ชอบใคร

ดวอร์ฟ “ดวอร์ฟเป็นเพื่อนที่ดีนะ และท่านมั่นใจในคำสัตย์ของพวกเขาได้เลย แต่ถ้ายิ้มสักครั้งก็น่าจะดี”

เอลฟ์ “พวกเขาสวยงามมาก! ใบหน้า ดนตรี การวางตัวและทั้งหมด เหมือนว่าพวกเขาก้าวออกมาจากความฝัน แต่ก็บอกไม่ได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่หลังใบหน้ายิ้มแย้มนั่นรึเปล่า ข้าแน่ใจว่าพวกเขามีอะไรแน่”

มนุษย์ “มนุษย์มีอะไรเหมือนพวกเราหลายอย่าง จริงนะ อย่างน้อยบางคนก็เหมือนหละ ต้องออกมาจากปราสาทและป้อมปราการ ไปคุยกับชาวนาและคนเลี้ยงสัตว์ ท่านจะเจอคนดี ๆ จริงใจ ก็ใช่ว่ามีอะไรไม่ดีกับพวกบารอนหรือทหารหรอกนะ ท่านต้องชื่นชมความกล้าหาญ และจากการที่พวกเขามุ่งมันป้องกันบ้านเมืองของเขา พวกเราก็ได้รับการปกป้องเช่นกัน”

ชื่อของฮาลฟ์ลิ่ง

ฮาล์ฟลิงจะมีชื่อ นามสกุล และอาจจะมีชื่อเล่น นามสกุลจริงแล้วมักจะเป็นชื่อเล่นที่เรียกต่อกันมาหลายชั่วคน

ชื่อผู้ชาย: อัลตัน, แอนเดอร์, เคด, คอริน, เอลดอน, เออริช, ฟินนาน, การ์เร็ท, ลินดัล, ไลน์, เมอร์ริค, ไมโล, ออสบอร์น, เพอร์ริน, รีด, รอสโค, เวลบี้

ชื่อผู้หญิง: แอนดรี, บรี, แคลลี่, โคร่า, ยูฟีเมีย, จิลเลี่ยน, คิทรี, ลาวิเนีย, ลินดา, เมอลา, เน็ดด้า, พีล่า, พอร์เทีย, เซราฟีนา, ชีน่า, ไทรม, วานี่, เวอร์น่า

ชื่อสกุล: บุชเกเธอร์, กู๊ดบาเรลล์, กรีนบอทเทิล, ไฮ-ฮิล, ฮิลท็อปเปิล, ลีกัลโล, ทีลีฟ, ธอร์นเกจ, ทอสโคเบิล, อันเดอร์บอจฮ์

ลักษณะพิเศษของฮาล์ฟลิง (Halfling Traits)

ตัวละครฮาล์ฟลิงของคุณมีลักษณะพิเศษร่วมกันในหมู่ฮาล์ฟลิง

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความคล่องแคล่วของคุณจะเพิ่ม 2 แต้ม

อายุ ฮาล์ฟลิงจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่ออายุ 20 และปกติจะอยู่จนอายุ 150 ปี

ขนาด ฮาล์ฟลิงสูงเฉลี่ย 3 ฟุต หนักราว 40 ปอนด์ มีขนาดเล็ก (Small)

ระยะเคลื่อนที่ ความเร็วในการเดินของคุณคือ 25 ฟุต

โชคดี เมื่อคุณทอยได้ 1 ในการทอยโจมตี ทอยทดสอบความสามารถ หรือทอยป้องกัน คุณสามารถทอยใหม่ได้และต้องใช้ค่าจากการทอยใหม่นั้น

กล้าหาญ คุณจะได้ทอยป้องกันแบบได้เปรียบ เมื่อต้องป้องกันจากความกลัว (frightened)

ความว่องไวของฮาล์ฟลิง คุณสามารถเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างของสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าคุณ

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอน (Common) และฮาล์ฟลิง (Halfling) ภาษาฮาล์ฟลิงไม่ได้เป็นความลับแต่ชาวฮาล์ฟลิงก็ไม่ได้สอนคนอื่นมากนัก พวกเขาเขียนน้อยเลยไม่มีตัวอักษรซับซ้อน อย่างไรก็ตามพวกเขามีภาษาพูดที่ชัดเจนมาก ฮาล์ฟลิงทั่วไปจะใช้ภาษาคอมมอนในการสื่อสารกับผู้คนในพื้นที่หรือที่พบเจอตลอดการเดินทางเสมอ

เผ่าพันธุ์ย่อย มีเผ่าพันธุ์ย่อย 2 เผ่า ไลท์ฟุตและสเต๊าท แต่ก็เป็นเหมือนครอบครัวใกล้ชิดมากกว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ย่อย คุณสามารถเลือกใช้ได้

ไลท์ฟุต (Lightfoot)

เมื่อเป็นไลท์ฟุตฮาล์ฟลิง คุณสามารถซ่อนตัวโดยไม่ให้สังเกตเห็นได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งใช้ผู้อื่นเป็นที่กำบังก็ตาม คุณมีแนวโน้มที่จะมีอัธยาศัยดีและเข้ากับผู้อื่นได้ดี ในอาณาจักรที่ถูกลืม ไลท์ฟุตฮาล์ฟลิงจะแพร่กระจายไปไกลที่สุดและเป็นพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุด

ไลท์ฟุตเป็นพวกที่ชอบท่องเที่ยวมากกว่าฮาล์ฟลิงทั่วไป และมักจะอาศัยอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่นหรือใช้ชีวิตแบบชาวเผ่าเร่ร่อน ในโลกของเกรย์ฮอว์ค ฮาล์ฟลิงเหล่านี้จะถูกเรียกว่าแฮร์ฟีท (hairfeet) หรือทอลเฟลโลว์ (tallfellows)

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนเสน่ห์ (Charisma) จะเพิ่มขึ้น 1 แต้ม

ล่องหนโดยธรรมชาติ คุณสามารถลองพยายามซ่อนตัวได้แค่เพียงคุณอยู่หลังสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่าคุณอย่างน้อย 1 ขนาด

สเต๊าท (Stout)

ในฐานะสเต๊าทฮาล์ฟลิง คุณจะแข็งแกร่งกว่าฮาล์ฟลิงทั่วไปและมีความต้านทานพิษอยู่ระดับหนึ่ง บ้างก็ว่าพวกสเต๊าทมีเลือดของดวอร์ฟอยู่ ในโลกของอาณาจักรที่ถูกลืม ฮาล์ฟลิงนี้เรียกว่าสตรองฮาร์ท (stronghearts) และพวกเขามีอยู่มากในตอนใต้

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความอดทน (Constitution) เพิ่มขึ้น 1

ความอึดของสเต๊าท คุณจะได้ทอยป้องกันพิษแบบได้เปรียบ และคุณจะมีความต้านทานความเสียหายด้วยพิษ (poison resistance)

ดรากอนบอร์น (Dragonborn)

พ่อของเธอยืนอยู่บนบันไดแรกของบันไดสามจุดที่เป็นทางลงมาจากพอร์ทัล เกล็ดบนใบหน้าของเขาสีเริ่มซีดลงไล่ไปตามขอบ แต่เมเฮน แคลนเลส ยังคงดูราวกับว่าเขาสามารถต่อสู้กับหมีที่น่ากลัวได้ ชุดเกราะที่สวมใส่ได้ดีของเขาหายไป มีเกราะสเกลอาเมอร์สีม่วงแวววาวมีขลิบสีเงินมาแทนที่ ที่แขนเคยมีตราประจำตระกูลเป็นสัญลักษณะของตระกูลหนึ่งที่ห่างไกล ดาบที่อยู่ข้างหลังยังเป็นเล่มเดิม เล่มเดียวกับที่เขาใช้ตั้งแต่ก่อนจะเจอกับฝาแฝดที่ถูกห่อผ้าทิ้งไว้ที่หน้าประตูเมืองอารุธ วาเยม

ตลอดชีวิตของเธอ ฟาริเดฮ์ได้เรียนรู้ว่าการอ่านใบหน้าของพ่อเธอนั้นเป็นทักษะที่โชคดีที่ได้เรียนรู้ มนุษย์ที่ไม่สามารถจะมองเห็นดวงตาของเธอหรือของฮาวิลาขยับ จะไม่เห็นว่าใบหน้าของเมเฮน แคลนเลสแตกต่างอะไรจากมังกร แต่การเลื่อนขึ้นลงของเกล็ด ความโค้งของสันบนหน้า ตำแหน่งของดวงตา ระดับการอ้าปากค้างเห็นฟัน - ใบหน้าของพ่อเธอบอกอะไรได้มากมาย

แต่ในเวลานี้ สัญลักษณ์ทุกระดับดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปหมด ดูไม่ต่างจากมังกร แม้กับเฟริเดฮ์

— เอริน เอ็ม. อีวานส์, เหล่าปรปักษ์ (The Adversary)

กำเนิดจากมังกรดังเช่นชื่อของพวกเขา ดรากอนบอร์นอาศัยอยู่อย่างภาคภูมิในโลกที่หวาดกลัวและไม่เข้าใจพวกเขา สร้างขึ้นโดยเทพมังกรหรือด้วยตัวมังกรเอง เหล่าดรากอนบอร์นฟักออกจากไข่มังกรออกมาเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษ ผสานข้อดีของทั้งมังกรและสิ่งคล้ายมนุษย์ ดรากอนบอร์นบางตนเป็นสาวกผู้ศรัทธาของมังกร บ้างเป็นทหารในสงครามยิ่งใหญ่ และบ้างก็พบว่าตัวเองไร้ที่ทางไร้จุดหมายของตนเอง

ชาวมังกรผู้ภาคภูมิ

ดรากอนบอร์นมีลักษณะคล้ายมังกรที่ยืนตัวตรง แต่จะไม่มีปีกและหาง ดรากอนบอร์นพวกแรกมีสีเหมือนกับมังกรที่สร้างพวกเขา แต่หลายชั่วอายุคนผ่านมา การผสมข้ามพันธุ์ทำให้เกิดความหลากหลายมากมาย เกล็ดเล็กและเรียงตัวสวยของพวกเขามักจะเป็นสีทองเหลืองหรือสัมฤทธ์ บางครั้งมีเฉดสีแดงสด สีสนิม สีทอง หรือทองแดงแกมเขียว พวกเขามีร่างกายสูงใหญ่แข็งแรง มักจะสูงราว 6 ฟุตครึ่ง และหนักราว 300 ปอนด์หรือมากกว่า มือและเท้าแข็งแรง มีกรงเล็บและนิ้ว 3 นิ้วกับ 1 หัวแม่มือ

สายเลือดของมังกรเข้มข้นมากในดรากอนบอร์นบางเผ่า พวกเขามักจะมีสีเกล็ดเหมือนกับมังกรที่เป็นบรรพบุรุษ - สีแดงสด, เขียว, ฟ้า หรือขาว, ดำสนิท หรือเป็นโลหะทองแวววาว, สีเงินยวง, ทองเหลือง, ทองแดงหรือสัมฤทธ์

เผ่าที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง (Self-Sufficient Clans)

สำหรับดรากอนบอร์นทุกตน เผ่ามีความสำคัญยิ่งกว่าชีวิต ดรากอนบอร์นจะอุทิตตนและเคารพเผ่าเหนือสิ่งอื่นใด แม้กับเทพเจ้า ความประพฤติของดรากอนบอร์นแต่ละคนจะถือเป็นเกียรติของเผ่าของเขาหรือเธอ การนำความอัปยศมาสู่เผ่าจะทำให้ถูกลงโทษหรือเนรเทศ แต่ละคนจะรู้ถึงตำแหน่งและหน้าที่ของตนในเผ่า และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติสูงสุดในตำแหน่งนั้น

ความต้องการที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอเป็นตัวผลักดันให้เกิดการอยู่ได้ด้วยตนเองของเผ่าพันธุ์โดยรวม ดรากอนบอร์นจะให้คุณค่ากับทักษะและความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้าน พวกเขาเกลียดความล้มเหลวและจะพยายามอยากสุดชีวิตก่อนที่จะล้มเลิกกับบางสิ่ง ดรากอนบอร์นที่ถึงจุดสูงสุดของทักษะถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต สมาชิกของเผ่าพันธุ์อื่นที่มุ่งมั่นในลักษณะเดียวกันมักจะได้รับความนับถือจากดรากอนบอร์น

แม้ว่าส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การอยู่ได้ด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าในบางสถานการณ์ความช่วยเหลือก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่แหล่งความช่วยเหลือมักจะมาจากเผ่าของตนเอง และเมื่อใดที่เผ่าต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจะขอจากดรากอนบอร์นเผ่าอื่นก่อนที่จะขอจากเผ่าพันธุ์อื่น - หรือแม้จากเทพเจ้า

ดราโกเนียน DRACONIANS

ในโลกของดรากอนแลนซ์ (Dragonlance setting) สาวกของเทพธิดาผู้ชั่วร้าย ทาคิทิส ได้เรียนรู้ถึงพิธีกรรมมืดที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนไข่ของมังกรโลหะ ทำให้เกิดเป็นดรากอนบอร์นชั่วร้ายชื่อว่า ดราโกเนียน มีดราโกเนียน 5 ชนิดที่ต่อสู้เพื่อทาคิทิสในสงครามแห่งหอก (War of the Lance): ออรัค (ทอง), บาซ (ทองเหลือง), โบซัค (สัมฤทธ์), คาพัค (ทองแดง), และซิวัค (เงิน) และแทนที่อาวุธลมหายใจด้วยความสามารถเวทย์มนต์เฉพาะตัว

ชื่อของดรากอนบอร์น Dragonborn Names

ดรากอนบอร์นมีชื่อส่วนตัวที่ได้รับตอนเกิด แต่พวกเขาจะใช้ชื่อเผ่านำก่อนเพื่อให้เกียรติ ชื่อในวัยเด็กหรือชื่อเล่นมักจะใช้เรียกกันในกลุ่มเพื่อน เป็นตัวบอกถึงลักษณะหรือความรักที่มีต่อผู้นั้น ชื่ออาจจะเรียกจากเหตุการณ์หรือใช้ลักษณะนิสัย

ชื่อผู้ชาย: อาจาน, บาลาซา, บาราช, โดนาร์, เกช, เฮสคาน, คริฟ, เมดราส, เมเฮน, นาดาร์, พานเจด, พาทริน, โรการ์, ชามาช, เซดินน, ทาร์ฮุน, โทริน

ชื่อผู้หญิง: อักครา, บิริ, ดาร์, ฟาริเดฮ์, ฮาราน, ฮาวิลาร์, เจริ, คาวา, โคริน, มิชาน, นาลา, เพอร่า, ไรอาน, โซรา, ซูรินา, ธาวา, อุดจิต

ชื่อวัยเด็ก: คลิมบา, เอียเบนเดอร์, ลีพเปอร์, ไพอัส, ชิลด์ไบเตอร์, ซีเลียส

ชื่อเผ่า: เคลธทินธิอัลลอร์, ดาอาเดนเดรียน, เดลมิเรฟ, ดราเชดันเดียน, เฟนเคนคาบราดอน, เคเปชคโมลิค, เคอไลลอน, คิมบาทูล, ลินซาคาเซนดาลอร์, ไมแอสตัน, เนมโมนิส, นอริเซียส, โอฟินสตาลาเจอร์, เพรกซิจันดิลิน, เชสเทนเดลิแอท, เทอนูรอธ, เอวธิสาเทอกิเอส, ยาเจอริต

คุณลักษณะของดรากอนบอร์น Dragonborn Traits

สายเลือดมังกรของคุณให้คุณลักษณะพิเศษหลากหลายตามชนิดของมังกรที่คุณสืบเชื้อสายมา

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความแข็งแกร่ง (Strength) เพิ่มขึ้น 2 และคะแนนสเน่ห์เพิ่มขึ้น 1

อายุ ดรากอนบอร์นเด็กจะโตเร็ว ฟักจากไข่ชั่วโมงเดียวก็เดินได้แล้ว โตเท่าเด็กมนุษย์ 10 ขวบใน 3 ปี และเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่ออายุ 15 จะอยู่ได้ถึงอายุ 80 xu

ขนาด ดรากอนบอร์นสูงและน้ำหนักมากกว่ามนุษย์ สูงเกิน 6 ฟุตและน้ำหนักเฉลี่ยราว 250 ปอนด์ เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเดินอยู่ที่ 30 ฟุต

บรรพบุรุษมังกร Draconic Ancestry

มังกร	ชนิดความเสียหาย	อาวุธลมหายใจ
ดำ	กรด	5 x 30 ft. เส้นตรง (Dex. save)
น้ำเงิน	สายฟ้า	5 x 30 ft. เส้นตรง (Dex. save)
ทองเหลือง	ไฟ	5 x 30 ft. เส้นตรง (Dex. save)
สัมฤทธิ์	สายฟ้า	5 x 30 ft. เส้นตรง (Dex. save)
ทองแดง	กรด	5 x 30 ft. เส้นตรง (Dex. save)
ทอง	ไฟ	15 ft. รูปกรวย (Dex. save)
เขียว	พิษ	15 ft. รูปกรวย (Con. save)
แดง	ไฟ	15 ft. รูปกรวย (Dex. save)
เงิน	ความเย็น	15 ft. รูปกรวย (Con. save)
ขาว	ความเย็น	15 ft. รูปกรวย (Con. save)

บรรพบุรุษมังกร คุณมีบรรพบุรุษเป็นมังกร เลือกชนิดของมังกรจากตารางด้านบน อาวุธลมหายใจและค่าความต้านทานความเสียหายของคุณจะขึ้นอยู่กับมังกรที่คุณเลือก

อาวุธลมหายใจ คุณสามารถใช้แอ็กชันในการพ่นลมหายใจโจมตีได้ บรรพบุรุษมังกรของคุณจะเป็นตัวกำหนดขนาด รูปร่างและชนิดความเสียหายเมื่อพ่นลมหายใจออกไป

เมื่อคุณใช้อาวุธลมหายใจ สิ่งมีชีวิตทุกตัวที่อยู่ในพื้นที่โจมตีต้องทอยป้องกัน ใช้คะแนนใดขึ้นอยู่กับบรรพบุรุษมังกรที่คุณเลือก ค่า DC สำหรับการทอยป้องกันจะเท่ากับ 8 + ค่าโมดิไฟเออร์ความอดทน (Constitution modifier) + โบนัสความเชี่ยวชาญของคุณ สิ่งมีชีวิตจะได้รับความเสียหาย 2d6 หากทอยพลาด และเสียหายครึ่งหนึ่งถ้าทอยผ่าน ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเป็น 3d6 เมื่อเลเวล 6, 4d6 เมื่อเลเวล 11 และ 5d6 เมื่อเลเวล 16

หลังจากที่คุณใช้อาวุธลมหายใจแล้ว คุณจะใช้ไม่ได้อีกจนกระทั่งได้รับการพักสั้นหรือพักยาว (short or long rest)

ความต้านทานความเสียหาย คุณจะมีความต้านทานต่อชนิดความเสียหายที่ผูกโยงอยู่กับชนิดบรรพบุรุษมังกรที่คุณเลือก

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอนและดราโกนิค ดราโกนิกถือเป็นหนึ่งในภาษาเก่าแก่และมักจะใช้ในการเรียนเวทย์มนต์ เสียงในภาษานี้จะฟังดูสาก ไม่นุ่มนวลสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นและมีพยัญชนะเสียงแข็งและพ่นออกตามไรฟัน

โนม (Gnome)

ร่างผอมบางและเส้นผมเหมือนต้นลินิน ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลวอลนัทและตาของเขาเป็นสีเทอควอยส์เป็นประกาย เบอเกลยืนอยู่ด้วยความสูงแค่ครึ่งเดียวของเอรอนแและต้องปีนขึ้นไปบนเก้าอี้เพื่อจะให้สูงถึงช่องแอบดู เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยทั่วไปในโอเอเบิ้ล ห้องแถวนี้สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์อาศัยอยู่ และผู้อาศัยที่ตัวเล็กกว่าก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถในการอาศัยอยู่ร่วมได้

แต่อย่างน้อยพื้นที่อพาทเมนท์ก็กว้างขวางพอที่จะให้เบอเกลเก็บของต่าง ๆ ของเขาได้อย่างสะดวก ห้องด้านหน้าเป็นห้องทำงาน และมันมีเครื่องไม้เครื่องมือจุกจิกมากมาย ทั้งฆ้อน สิ่ว เลื่อย อุปกรณ์งัดแงะ เลนส์สะท้อนแสง เครื่องมือช่างอัญมณี และขวดบรรจุดผงส่วนประกอบเวทย์มนต์ต่าง ๆ สัตว์เลี้ยงของนักเวทย์เป็นแมวอ้วนสีเทานอนขดอยู่บนหนังสือหนา มันนอนลืมตามองมาทางเอรอนด้วยตาสีเหลืองเรือง และกลับไปนอนหลับต่อ

— ริชาร์ด ลี เบเยอร์ Richard Lee Byers, The Black Bouquet

เสียงกิจกรรมที่วุ่นวายกระจายอยู่ทั้งโถงและส่วนใกล้เคียงที่เหล่าโนมมาชุมนุมกัน บางครั้งมีเสียงดังแทรกขึ้นมา เสียงเฟืองขบกันตรงนั้น เสียงระเบิดตรงโน้น เสียงโห่ร้องด้วยความประหลาดใจหรือเสียงไชโย และโดยเฉพาะเสียงหัวเราะดังก้อง โนมใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน มีความสุขในทุกขณะของการประดิษฐ์ การท่องเที่ยว การสำรวจ งานสร้างสรรค์และการเล่น

การแสดงออกที่มีชีวิตชีวา Vibrant Expression

พลังและความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิตมีอยู่ในทุกนิ้วของร่างเล็กของพวกเขา โนมสูงโดยเฉลี่ย 3 ฟุต และหนักราว 40 ถึง 45 ปอนด์ ใบหน้าผิวแทนหรือน้ำตาลมักจะมีรอยยิ้มเสมอ (ใต้จมูกอันโดดเด่นนั่น) และดวงตาสุกใสเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผมมักจะชี้โด่เด่ไปทุกทิศทางราวกับแสดงให้เห็นถึงความสนใจหลากหลายของโนมต่อสิ่งรอบตัว

บุคลิกของโนมมาจากลักษณะภายนอกของพวกเขา ผู้ชายมักไว้หนวดซึ่งมักจะตัดแต่งอย่างดีตรงข้ามกับผมที่ดูรุงรัง เสื้อผ้าเป็นแบบเรียบ ๆ สีเอิร์ทโทนแต่ก็ตบแต่งอย่างปราณีตด้วยลายปัก ลายนูนหรืออัญมณีที่แวววาว

ความทุ่มเทที่สนุกสนาน Delighted Dedication

สิ่งที่โนมให้ความสำคัญคือการมีชีวิตชีวาเป็นสิ่งพิเศษ และพวกเขารีดเร้นทุกหยดของความสนุกสนานออกมาจากช่วงชีวิต 3 - 5 ร้อยปีของพวกเขา มนุษย์อาจจะสงสัยว่าไม่เบื่อบ้างเหรอมีอายุยาวนานขนาดนั้น และพวกเอลฟ์ก็ใช้เวลาที่มีไปกับการรักษาความสวยงามของโลกในช่วงอายุที่ยาวนาน แต่โนมดูจะกังวลว่าแม้กับเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น พวกเขาก็จะไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ และได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ทั้งหมด

โนมพูดเร็วเหมือนกับว่าพวกเขาไม่สามารถพูดได้เร็วเท่าความคิดได้ แม้ว่าพวกเขาจะพูดแบบพรั่งพรูออกมาแต่ก็ยังเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจฟังผู้อื่น และมักจะอุทานด้วยความประหลาดใจและความชื่นชมอยู่ตลอดการสนทนา

แม้ว่าโนมจะชอบมุกตลกทุกรูปแบบ โดยเฉพาะคำความหมายสองนัยและการแกล้งกัน พวกเขาก็มุ่งมั่นตั้งใจกับงานที่จริงจังที่พวกเขาทำ โนมมากมายเป็นช่างกลมากทักษะ เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เป็นช่างเชื่อมและนักประดิษฐ์ พวกเขายินดีที่จะทำอะไรผิดพลาดและหัวเราะกันสนุกสนานในระหว่างทำงานให้สมบูรณ์ที่สุด เป็นพวกที่กล้าหาญ (บางทีก็บ้าบิ่น) ชอบความเสี่ยงและมีฝันที่ยิ่งใหญ่

โพรงถ้ำที่สว่างไสว Bright Burrows

โนมมักมีบ้านอยู่ในบริเวณเนินเขาที่มีป่าปกคลุม พวกเขาอยู่ใต้ดินแต่ก็อยู่ตื้นกว่าดวอร์ฟ เพื่อชื่นชมธรรมชาติและขึ้นมาบนพื้นด้านบนเมื่อต้องการ บ้านของพวกเขามักจะซ่อนอยู่อย่างมิดชิดด้วยสิ่งก่อสร้างอันชาญฉลาดและการลวงตาง่าย ๆ แขกที่ได้รับการต้อนรับจะถูกพาเข้าโพรงอันอบอุ่น ส่วนผู้ที่ไม่เป็นที่ต้อนรับมักจะหาโพรงไม่เจอตั้งแต่แรก

โนมที่อาศัยอยู่กับชุมชนมนุษย์มักจะเป็นคนเจียรไนพลอย ช่างยนต์ ปราชญ์ หรือช่างเชื่อม บางครอบครัวของมนุษย์จะรับโนมมาสอนหนังสือ ทำให้ลูกศิษย์ได้ความรู้ที่เข้มข้นและความสนุกสนานอย่างไม่รู้เบื่อ โนมอาจจะเป็นอาจารย์ให้กับคนหลายรุ่นในครอบครัวจากอายุที่ยืนยาวของพวกเขา

ยินดีอยู่เสมอ ALWAYS APPRECIATIVE

น้อยครั้งมากที่โนมจะเป็นศัตรูหรือคิดร้ายกับใครเว้นแต่ว่าเขาหรือเธอจะถูกให้บาดเจ็บเจียนตาย โนมรู้ว่าเผ่าพันธุ์อื่นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเข้าใจมุกตลกของพวกเขา แต่ยังไงก็ตามพวกเขาก็สนุกสนานเมื่อได้ร่วมคณะเดินทางเหมือนกับที่มักจะมีความสุขกับสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาตัดสินใจทำ

ชื่อของโนม Gnome Names

โนมเป็นพวกชอบชื่อมาก และส่วนใหญ่จะมีชื่อกันคนละครึ่งโหลหรือมากกว่านั้น แม่ พ่อ ผู้อาวุโสในเผ่า บรรดาน้าป้าและลุงต่างก็จะตั้งชื่อให้โนมแต่ละคน ยังมีชื่อเล่นที่ได้จากคนอื่น ๆ อีกที่อาจจะใช้อยู่หรือเปลี่ยนไปตามเวลา ชื่อของโนมมักจะต่างกันออกไปตามชื่อของบรรพบุรุษหรือญาติห่าง ๆ บางทีก็คิดกันขึ้นมาใหม่เลย เมื่อต้องพบปะกับมนุษย์และเผ่าอื่นที่ “จู้จี้” เรื่องชื่อ โนมจึงเรียนรู้ที่จะเลือกใช้ชื่อแค่ 3 คือ ชื่อตัว ชื่อเผ่า และชื่อเล่น เลือกจากแต่ละหมวดที่ดูจะสนุกเวลาพูดออกมา

ชื่อชาย: อัลสตัน, อัลวีน, บ็อดดี้น็อค, บรอคค์, เบอร์เกล, ดิมเบิล, เอลดอน, เออกี้, ฟ็องคิน, ฟรุก, เจอโบ, กิมเบิล, กลิม, เจเบ็ดโด, เคลเลน, นัมฟูเดิล, ออริน, รูนดาร์, ซีโบ, ซินดริ, วาร์ริน, เวรน, ซุค

ชื่อหญิง: บิมน็อททิน, บรีนา, คารามิพ, คาร์ลิน, ดอนเนลล่า, ดูวามิล, เอลลา, เอลลี่โจเบล, เอลลี่วิค, ลิลลิ, ลูพม็อททิน, ลอริลล่า, มาร์ดแน็บ, นิสซา, นิกส์, โอดา, ออลา, รอยวิน, ชามิล, ทานา, เวย์ว็อคเค็ท, ซานนา

ชื่อเผ่า: เบเรน, ดาเออเกล, โฟล์คกอ, การ์ริค, แน็คเคิล, เมอร์นิก, นิงเกิล, ราอูนอร์, เชพเพน, ทิมเบอร์ส, ทูเรน

ชื่อเล่น: อะเลสล็อช, แอชฮาร์ธ, แบดเจอร์, โคลค, ดับเบิลล็อค, ฟลิชแบทเทอร์, ฟนิพเปอร์, คู, นิม, วันชู, พ็อค, สปาร์คเคิลเจม, สตัมเบิลดัก

ออกไปท่องโลกกว้าง Seeing the World

ด้วยความที่ขี้สงสัยและใจเร็ว โนมอาจจะออกผจญภัยด้วยความอยากออกไปท่องโลกหรือเพราะความรักในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ ความรักในอัญมณีและไอเท็มสวยงาม โนมบางคนถือเอาการผจญภัยที่อันตรายเป็นหนทางสู่ความร่ำรวย ไม่ว่าอะไรกระตุ้นให้พวกเขาออกผจญภัย โนมใช้ชีวิตแบบนี้ก็เพื่อหาความเพลิดเพลินพอ ๆ กับที่พวกเขาทำกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็สร้างความรำคาญให้กับเพื่อนร่วมผจญภัยของพวกเขา

คุณลักษณะของโนม Gnome Traits

ตัวละครโนมของคุณจะมีลักษณะคล้ายกับโนมอื่น ๆ ทั่วไป

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความฉลาด (Intelligence) เพิ่มขึ้น 2

อายุ โนมจะเป็นผู้ใหญ่ในอัตราเดียวกับมนุษย์ ส่วนใหญ่จะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ตอนที่อายุ 40 พวกเขาอยู่ได้ถึง 350 และเกือบ 500 ปีเลยทีเดียว

ขนาด โนมสูงราว 3 - 4 ฟุต หนักโดยเฉลี่ย 40 ปอนด์ มีขนาดเล็ก (Small)

ความเร็ว ความเร็วการเดินปกติอยู่ที่ 25 ฟุต

ดาร์กวิชัน ความคุ้นเคยในการอาศัยอยู่ใต้ดิน คุณจะมีวิสัยทรรศ์ที่ยอดเยี่ยมในที่มืดและแสงสลัว คุณสามารถมองในที่แสงสลัวในระยะ 60 ฟุตรอบตัวคุณชัดเจนเหมือนอยู่ในที่แสงปกติ และในความมืดคุณจะมองเห็นได้เหมือนอยู่ในที่แสงสลัว คุณจะไม่สามารถแยกแยะสีได้ในความมืด จะเห็นเป็นเฉดสีเทาเท่านั้น

ความเจ้าเล่ห์แบบโนม คุณจะได้ทอยแบบได้เปรียบเมื่อต้องทอยป้องกันเวทย์มนต์ด้วยค่าความฉลาด (Intelligence) ความรอบรู้ (Wisdom) และเสน่ห์ (Charisma)

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอน และภาษาโนมิช (Gnomish) ภาษาโนมิชนี้ ซึ่งใช้ตัวเขียนจากภาษาดวาร์วิช มีชื่อเสียงมากในงานเขียนตำราด้านเทคนิคและการจัดหมวดหมู่ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของโลก

เผ่าพันธุ์ย่อย มีเผ่าพันธุ์ย่อยสองเผ่าของโนมที่พบเห็นได้ในโลกของ D&D คือโนมป่า (forest gnomes) และโนมหิน (rock gnomes) คุณสามารถเลือกใช้ได้

ดีพโนม DEEP GNOMES

เป็นเผ่าพันธุ์ย่อยที่สามของเหล่าโนม ดีพโนม (หรือ สเวิร์ฟเนบลิน svirfneblin) อาศัยอยู่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ในอันเดอร์ดาร์ก ที่ผิดจากพวกดูเออการ์และพวกดราว สเวิร์ฟเนบลินเป็นฝ่ายดีเหมือนญาติของพวกเขาบนพื้นโลก อย่างไรก็ตามความตลกร่าเริงและความมุ่งมั่นก็เหือดหายไปเพราะสภาพแวดล้อมที่กดทับ และความเชี่ยวชาญด้านงานประดิษฐ์ของพวกเขาก็มุ่งเน้นไปที่งานหินเป็นส่วนใหญ่

โนมป่า Forest Gnome

เมื่อเป็นโนมป่า คุณจะมีความสามารถพิเศษโดยธรรมชาติในการใช้การลวงตา มีความว่องไวและการหลบซ่อนเก่ง ในโลกของ D&D โนมป่าเป็นสิ่งพบได้ยากและลึกลับ พวกเขารวมตัวเป็นกลุ่มซ่อนตัวอยู่ในป่าซิลแวน ใช้การลวงตาและมายากลในการปกปิดตัวตนจากภัยอันตราย หรือซ่อนเส้นทางการหลบหนีหากถูกพบตัว โนมป่ามักจะเป็นมิตรกับชาวป่าฝ่ายดีอื่น ๆ พวกเขาถือว่าเอลฟ์และเหล่าเฟย์ฝ่ายดีเป็นพันธมิตรที่สำคัญ พวกโนมเหล่านี้เป็นเพื่อนกับสัตว์เล็ก ๆ ในป่าและใช้พวกมันเป็นแหล่งข่าวเกี่ยวกับภัยอันตรายที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาในเขตแดน

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความว่องไว (Dexterity) เพิ่มขึ้น 1

นักลวงตาโดยธรรมชาติ คุณจะรู้เวทย์การลวงตาเบื้องต้น (minor illusion cantrip) คะแนนความฉลาด (Intelligence) จะเป็นค่าความสามารถที่ใช้ในการร่ายเวทย์

คุยกับสัตว์เล็กได้ ด้วยเสียงและท่าทาง คุณสามารถสื่อสารง่าย ๆ กับสัตว์ขนาดเล็ก (Small) หรือเล็กกว่าได้ โนมป่าเป็นพวกรักสัตว์และมักจะเลี้ยงกะรอก แบดเจอร์ กระต่าย ตุ่น นกหัวขวานและสัตว์เล็กอื่น ๆ เป็นสัตว์เลี้ยง

โนมหิน Rock Gnome

เมื่อเป็นโนมหิน คุณจะมีความสามารถในการประดิษฐ์และความแข็งแกร่งเหนือกว่าโนมอื่น โนมส่วนใหญ่ในโลกของ D&D เป็นโนมหิน รวมถึงโนมนักประดิษฐ์ในโลกของดรากอนแลนซ์ด้วย

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความอดทน (Constitution) เพิ่มขึ้น 1

ตำนานนักประดิษฐ์ (Artificer’s Lore) เมื่อคุณต้องทอยทดสอบคะแนนความฉลาด (Intelligence) ด้านประวัติศาสตร์ (History) คุณสามารถบวกค่าโบนัสความชำนาญ (proficiency bonus) เพิ่มเป็น 2 เท่าได้

นักประดิษฐ์ (Tinker) คุณจะมีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือช่าง (เครื่องมือนักประดิษฐ์) เมื่อใช้เครื่องมือนั้น คุณสามารถใช้เวลา 1 ชม. และวัสดุที่มีมูลค่า 10 gp ในการสร้างอุปกรณ์กลไก (Tiny clockwork device) (AC 5, 1 hp) อุปกรณ์จะหยุดทำงานเมื่อผ่านไป 24 ชม. (มิเช่นนั้นคุณต้องใช้เวลา 1 ชม. ในการซ่อมแซมเพื่อให้มันกลับมาทำงานต่อ) หรือเมื่อคุณใช้แอ็คชันในการรื้อมัน คุณสามารถเก็บชิ้นส่วนเพื่อนำมาสร้างใหม่ได้ คุณสามารถมีอุปกรณ์กลไกที่ทำงานพร้อมกันอยู่ได้มากสุด 3 ชิ้น

เมื่อคุณสร้างอุปกรณ์ ให้เลือกจากรายการต่อไปนี้

ของเล่นกลไก ของเล่นนี้จะเป็นตุ๊กตาสัตว์ไขลาน มอนสเตอร์ หรือคน เช่น กบ หนู นก มังกร หรือทหาร เมื่อวางบนพื้นแล้วของเล่นจะเคลื่อนที่ได้ 5 ฟุตในแต่ละตาเดินของคุณในทิศทางแบบสุ่ม มันจะส่งเสียงเหมือนกับชนิดของสัตว์ที่มันเป็น

ไฟแช็ค อุปกรณ์นี้จะสร้างเปลวไฟเล็ก ๆ ซึ่งคุณสามารถใช้ในการจุดเทียน คบไฟ หรือก่อกองไฟได้ การใช้อุปกรณ์นี้ต้องใช้แอ็กชัน

กล่องดนตรี เมื่อเปิดออก กล่องดนตรีนี้จะเล่นเพลงหนึ่งด้วยความดังปานกลาง กล่องจะหยุดเล่นเพลงเมื่อจบเพลงหรือเมื่อมันถูกปิดฝา

ฮาล์ฟ-อ็อค (Half-Orc)

หัวหน้าเผ่าเมอเรนปลุกตัวเองให้ตื่นจากที่นอนขนนุ่มและบรรดาผู้หญิงของเขา ดึงเกราะห่วงเหล็กขึ้นมาสวมใส่บนลำตัวที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ เขามักจะตื่นก่อนนักรบของเขาเสมอ เพราะเขามีเลือดมนุษย์ผสมอยู่เข้มข้นในตัว และเขาพบว่าแสงตะวันไม่ได้รบกวนเขามากเท่าคนอื่น ๆ ในเผ่า ในหมู่เผ่าบลัดดี้สคัล นักรบจะถูกตัดสินกันจากความแข็งแกร่ง ความกล้าบ้าบิ่น และภูมิปัญญา บรรพบุรุษมนุษย์ในตัวเขาไม่ได้เป็นปัญหาต่อการเป็นนักรบแต่อย่างใด ยังมีความแข็งแกร่ง ทนทาน และกระหายเลือดเหมือนเช่นพี่น้องเลือดแท้ในเผ่า ฮาล์ฟอ็อคที่อ่อนแอกว่าคนอื่น ๆ มักจะอยู่ได้ไม่นานในสังคมบลัดดี้สกัล หรือในเผ่าอ็อคอื่น แต่มันมักจะจริงที่ความเป็นมนุษย์ในสายเลือดนั้นทำให้เป็นนักรบที่เป็นส่วนผสมกันของความเจ้าเล่ห์ ความทะเยอทะยาน และความมีวินัย อย่างที่เมอเรนมี เขาเป็นหัวหน้าของเผ่าที่รวบรวมหอกได้ถึงสองพันเล่ม เป็นหัวหน้าเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในธาร์

— ริชาร์ด เบเกอร์ (Richard Baker), ซอร์ดเมจ (Swordmage)

ไม่ว่าจะรวมตัวกันภายใต้การนำของวอร์ล็อคผู้ทรงอำนาจ หรือสู้กันจนแตกหักหลายปี ชุมชนอ็อคกับมนุษย์บางคราวก็ผนึกกำลังกันเป็นพันธมิตร เมื่อการร่วมมือเป็นพันธมิตรกันถูกผนึกตราด้วยการแต่งงาน ฮาล์ฟอ็อคก็เกิดขึ้น บางคนก็ไต่เต้าขึ้นไปจนเป็นผู้นำที่น่าภูมิใจในเผ่าอ็อค บ้างก็ออกท่องโลกเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตน หลายคนกลายมาเป็นนักผจญภัย สร้างความสำเร็จเป็นเกียรติประวัติ

รอยแผลเป็นและความแข็งแกร่ง Scarred and Strong

ฮาล์ฟอ็อคแสดงให้เห็นถึงการผสานรวมกันระหว่างลักษณะของอ็อคและมนุษย์ รูปลักษณ์ของพวกเขาแตกต่างหลากหลาย ผิวสีออกเทาและฟันที่ยื่นออกมาเป็นลักษณะเด่นที่ชัดเจน ฮาล์ฟอ็อคจะสูงระหว่าง 5 ถึง 7 ฟุต หนักราว 180 ถึง 250 ปอนด์

อ็อคจะนับถือรอยแผลเป็นจากการรบเป็นสัญลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจและจะตบแต่งรอยแผลเป็นเหมือนเป็นสิ่งสวยงาม แต่แผลเป็นแบบอื่น เป็นเครื่องหมายตีตราอ็อคหรือฮาล์ฟอ็อคว่าเคยเป็นนักโทษหรือถูกเนรเทศ ฮาล์ฟอ็อคคนใดที่อาศัยอยู่ในหมู่อ็อค ไม่ว่าแผลเป็นจะได้มายังไง ก็จะนับว่าเป็นความทรงจำในอดีตที่น่าจดจำ

สัญลักษณ์แห่งกรูมส์ The Mark of Gruumsh

เทพตาเดียว กรูมส์ (Gruumsh) เจ้าแห่งสงครามและความพิโรธได้สร้างอ็อคพวกแรกขึ้นมา และแม้ว่าอ็อคเหล่านั้นจะเลิกนับถือไปแล้ว ความแข็งแกร่งและความอดทนที่ได้รับพรมาก็ยังคงอยู่ เช่นเดียวกับฮาล์ฟอ็อค บางคนได้ยินเสียงกระซิบของกรูมส์ในความฝัน เรียกให้พวกเขาปลดปล่อยความบ้าคลั่งที่ซ่อนอยู่ตัวตัวออกมา บางคนรับรู้ถึงความปิติยินดีของกรูมส์เมื่อพวกเขาเข้าต่อสู้ตะลุมบอนกับศัตรู บ้างก็ร่วมกับความบ้าเลือดนั้น บ้างเกิดความกลัวและหนีห่าง

นอกเหนือจากความบ้าคลั่งของกรูมส์แล้ว ฮาล์ฟอ็อคยังรับรู้อารมณ์ได้อย่างรุนแรง ความบ้าคลั่งไม่ได้แค่ทำให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้น แต่ยังทำให้ร่างกายร้อนเป็นไฟ การดูถูกเหยียดหยามทิ่มแทงเหมือนกรดกัด และความโศกเศร้าทำให้ความแข็งแกร่งเหือดหาย แต่พวกเขาหัวเราะดังสนั่นและจริงใจ มีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ เช่นการกิน การดื่ม เล่นมวยปล้ำ ตีกลอง และเต้นรำแบบชนเผ่า แค่นี้ก็ทำให้พวกเขามีความสุขได้ พวกเขามักจะโมโหง่ายและหน้าตาบึ้งตึง มักจะลุยก่อนแล้วค่อยคุยทีหลัง และเมื่อพวกเขาตกหลุมรักพวกเขาจะโดดเข้าไปแสดงความรักทันที

ชื่อของฮาล์ฟอ็อค Half-Orc Names

ฮาล์ฟอ็อคมักจะได้ชื่อที่เหมาะกับวัฒนธรรมที่พวกเขาถูกเลี้ยงดูมา ฮาล์ฟอ็อคที่ต้องการจะเข้ากับสังคมมนุษย์อาจจะใช้ชื่อแบบมนุษย์ บางคนที่เคยใช้ชื่อมนุษย์ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่ออ็อคเพราะทำให้ดูน่าเกรงขาม

ชื่ออ็อคชาย: เดนช์, เฟง, เกล, เฮง, โฮล์ก, อิมช์, เคธ, ครัชค์, เมอเรน, รอนท์, ชัมพ์, ธอคค์

ชื่ออ็อคหญิง: แบ็คกี, อีเมน, เอ็นกอง, คานชิฟ, เมอีฟ, นีกา, โอวัค, โอนกา, เชาธาร์, ซูธา, โวลา, โวเลน, เยเวลดา

คุณลักษณธของฮาล์ฟอ็อค Half-Orc Traits

ตัวละครฮาล์ฟอ็อคของคุณจะมีคุณลักษณะ (trait) ที่ได้มาจากบรรพบุรุษอ็อค

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความแข็งแกร่ง (Strength) เพิ่มขึ้น 2 และคะแนนความอดทน (Constitution) เพิ่มขึ้น 1

อายุ ฮาล์ฟอ็อคจะโตเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่ามนุษย์ จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่ออายุ 14 จะโตอย่างรวดเร็วและมีอายุอยู่ได้เกิน 75 ปี

ขนาด ฮาลฟ์อ็อคจะมีขนาดตัวใหญ่และหนากว่ามนุษย์ และสูงระหว่าง 5 - 6 ฟุต เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเดินปกติอยู่ที่ 30 ฟุต

ดาร์กวิชัน ต้องขอบคุณเลือดอ็อคในตัวคุณ คุณมีการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมในความมืดและภาวะแสงน้อย คุณสามารถมองเห็นในที่แสงน้อย (dim light) ในระยะ 60 ฟุตรอบตัวคุณเหมือนคุณมองเห็นในที่แสงปกติ และในความมืดสนิท (darkness) คุณจะมองเห็นเหมือนอยู่ในที่แสงน้อย คุณไม่สามารถแยกแยะสีได้ในความมืดสนิท ได้แค่เป็นระดับสีเทา

ข่มขู่เก่ง คุณมีความเชี่ยวชาญในทักษะการข่มขู่ (Intimidation skill)

ความอดทนไร้ขีดจำกัด เมื่อคุณเลือดลดจนเหลือ 0 แต่ไม่ได้ถูกฆ่าทันที คุณจะได้ HP เป็น 1 แทน คุณจะไม่สามารถใช้ความสามารถ (feature) นี้ได้อีกจนกว่าจะได้พักยาว (long rest)

โจมตีแบบสัตว์ป่า เมื่อคุณทอยได้คริติคัลในการทอยโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิดตัว คุณสามารถทอยความเสียหายเพิ่มได้อีก 1 ลูก 1 ครั้ง และเพิ่มเป็นความเสียหายพิเศษในการโจมตี

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอนและภาษาอ็อค ภาษาอ็อคจะกระด้าง มีเสียงงึมงัม ไม่มีตัวอักษรเป็นของตัวเองโดยจะใช้ตัวเขียนของภาษาดวาฟวิช

ฮาล์ฟ-เอลฟ์ (Half-Elf)

ฟลินต์หรี่ตามองไปทางตะวันตกขณะอาทิตย์อัสดง เขาคิดว่าเขาเห็นคนเดินมาตามทาง ฟลินต์ถอยเข้าร่มต้นไพน์สูงเพื่อจะได้เห็นได้ถนัด ชายคนนั้นเดินมาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ อย่างงามสง่า ท่วงท่าแบบเอลฟ์ หากแต่ชายผู้นั้นร่างกำยำมีมัดกล้ามและหนวดเคราแบบมนุษย์ ดวอร์ฟทั้งหมดคงเห็นใบหน้าภายใต้ฮู้ดสีเขียวว่ามีผิวสีแทนและเคราสีน้ำตาลแดง มีธนูยาวพาดอยู่ที่ไหล่ด้านหนึ่งและดาบห้อยอยู่ด้านซ้าย เขาแต่งตัวด้วยชุดหนังนุ่มที่ตัดเย็บอย่างปราณีตมีรูปแบบสวยงามเหมือนที่พวกเอลฟ์ชอบ แต่ไม่มีเอลฟ์ใดในโลกของครินน์ที่มีหนวดเคราหรอก … ไม่ใช่เอลฟ์แน่ ๆ แต่…

“ทานิส?” ฟลินต์กล่าวอย่างลังเลเมื่อชายคนนั้นเดินมาใกล้

“คนเดิมเลย” เจ้าหน้าหนวดฉีกยิ้มกว้าง อ้าแขนออกสุดและก่อนที่ดวอร์ฟจะได้ทำอะไรเขาก็กอดแน่นและยกตัวฟลินต์ขึ้นจากพื้น ดวอร์ฟตบหลังเพื่อนเก่าพอเป็นพิธี และเมื่อนึกถึงศักด์ศรี ก็บิดตัวไปมาให้เป็นอิสระจากการทักทายของฮาล์ฟเอลฟ์

— มากาเรต เวส และ เทรซี่ ฮิกแมน มังกรแห่งอาทิตย์อัศดงในฤดูใบไม้ร่วง Margaret Weis and Tracy Hickman, Dragons of Autumn Twilight

ใช้ชีวิตอยู่ในสองโลกแต่ไม่ได้เป็นของฝั่งใดจริง ๆ ฮาล์ฟเอลฟ์เป็นส่วนผสมที่บางคนเรียกว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของพ่อแม่ที่เป็นเอลฟ์และมนุษย์ ความสงสัยใครรู้ของมนุษย์ การประดิษฐ์สร้างสรรค์ และความทะเยอทะยานที่เติมด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบคม ความรักในธรรมชาติ และความชอบในงานศิลปะแบบเอลฟ์ ฮาล์ฟเอลฟ์บางคนอาศัยอยู่กับมนุษย์ แตกต่างไปโดยอารมณ์และร่างกายที่แตกต่าง มองดูเพื่อนและคนรักอายุมากขึ้นโดยที่พวกเขาไม่แก่ลงเลย บ้างก็อยู่ร่วมกับเอลฟ์ เติบโตขึ้นทุกวันจนเป็นผู้ใหญ่ในขณะที่เพื่อน ๆ ยังคงเป็นเด็กกันอยู่ ฮาล์ฟเอล์หลายคนไม่สามารถอยู่ในทั้งสองสังคมนี้ได้ จึงเลือกจะท่องเที่ยวไปตามลำพังหรือร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ในชีวิตการผจญภัย

จากสองโลก Of Two Worlds

สำหรับมนุษย์ ฮาล์ฟเอลฟ์ดูเหมือนเอลฟ์ และสำหรับเอลฟ์พวกเขาก็ดูเหมือนมนุษย์ ในเรื่องความสูง พวกเขาสูงพอ ๆ กับพ่อแม่ เพียงแต่จะไม่เพรียวเท่าเอลฟ์หรือหนาเหมือนมนุษย์ พวกเขาสูงระหว่าง 5 - 6 ฟุต หนักราว 100 - 180 ปอนด์ โดยผู้ชายจะสูงกว่าและหนักกว่าผู้หญิงเล็กน้อย ฮาล์ฟเอลฟ์ชายจะมีหนวดเครา และบางครั้งก็ไว้หนวดเพื่อปิดบังความเป็นเอลฟ์ สีผิวและลักษณะร่างกาจจะอยู่ระหว่างพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์และเอลฟ์ ซึ่งนั่นทำให้มีความหลากหลายมาก พวกเขามักจะมีสีตาเหมือนเอลฟ์

เป็นฑูตหรือคนจร

ฮาล์ฟเอลฟ์ไม่มีดินแดนเป็นของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการต้อนรับในเมืองของมนุษย์และอาจจะไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับเท่าใดในป่าของพวกเอลฟ์ ในเมืองใหญ่ในเขตที่เอลฟ์และมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กันบ่อย จำนวนฮาล์ฟเอลฟ์ก็อาจจะมากพอที่จะเกิดเป็นชุมชนเล็ก ๆ ของพวกเขาเองได้ พวกเขามีความสุขในการอยู่ร่วมกับฮาล์ฟเอลฟ์อื่น ซึ่งเป็นผู้คนเพียงกลุ่มเดียวที่เขาใจถึงชีวิตที่ต้องอยู่ระหว่างสองโลกนี้

ในส่วนอื่นของโลก ฮาล์ฟเอลฟ์ก็พิเศษพอที่จะพบเห็นได้น้อย บางคนจะเลี่ยงการพบปะผู้คน ท่องไปในป่าเป็นนักดักสัตว์ ผู้ดูแลป่า นักล่า หรือเป็นนักผจญภัยที่จะออกมาเจอความศิวิไลซ์นาน ๆ ครั้ง เหมือนกับพวกเอลฟ์ พวกเขามักจะถูกผลักดันด้วยความอยากออกสำรวจโลกที่เกิดจากอายุที่ยืนนาน คนอื่นในทางกลับกันก็เข้าไปอยู่ในสังคมเมืองใช้เสน่ห์และทักษะทางสังคมให้เป็นประโยชน์ในการเป็นฑูตหรือนักต้มตุ๋น

เป็นฑูตที่ดีเยี่ยม EXCELLENT AMBASSADORS

ฮาล์ฟเอลฟ์หลายคนเรียนรู้ในช่วงแรกของชีวิตในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เลี่ยงความขัดแย้งและหาจุดสมดุลย์ ในด้านของเผ่าพันธุ์ พวกเขามีสง่าราศีเหมือนเอลฟ์แต่ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส และมีพลังแบบมนุษย์แต่ก็ไม่หยาบคาย พวกเขามักจะเป็นฑูตที่ดีเยี่ยมและเหมาะจะเป็นคนกลางในการเจรจา (ยกเว้นระหว่างเอลฟ์และมนุษย์เพราะมักจะถูกคิดว่าจะลำเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง)

ชื่อของฮาล์ฟเอลฟ์ Half-Elf Names

ฮาล์ฟเอลฟ์ใช้วิธีการตั้งชื่อทั้งแบบของมนุษย์และเอลฟ์ เป็นการบอกว่าพวกเขาไม่ได้ยึดโยงกับฝ่ายใดเป็นหลัก ฮาลฟ์เอลฟ์ที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์มักจะได้รับชื่อแบบเอลฟ์ และพวกที่ถูกเลี้ยงด้วยเอลฟ์มักจะชื่อแบบมนุษย์

คุณลักษณะของฮาล์ฟเอลฟ์ Half-Elf Traits

ตัวละครฮาล์ฟเอลฟ์ของคุณจะมีลักษณะที่คล้ายกับเอลฟ์และบางอย่างก็มีเฉพาะในฮาล์ฟเอลฟ์

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนเสน่ห์ (Charisma) จะเพิ่มขึ้น 2 และความสามารถอื่นอีกสองอย่างตามที่คุณเลือกจะเพิ่มขึ้น 1

อายุ ฮาล์ฟเอลฟ์จะเติบโตในอัตราเดียวกับมนุษย์ เป็นผู้ใหญ่เมื่ออายุ 20 พวกเขาอยู่ได้นานกว่ามนุษย์มาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะเกิน 180 ปี

ขนาด ฮาล์ฟเอลฟ์มีขนาดเท่ากับมนุษย์ สูงระหว่าง 5 - 6 ฟุต เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วพื้นฐานในการเคลื่อนที่คือ 30 ฟุต

บรรพบุรุษชาวเฟย์ คุณจะได้ทอยแบบได้เปรียบในการทอยป้องกันการถูกทำให้หลงใหล (charmed) และไม่มีเวทย์มนต์ใดทำให้คุณหลับได้

ทักษะที่หลากหลาย คุณจะมีความเชี่ยวชาญในทักษะที่คณเลือก 2 อย่าง

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอน เอลวิช และอีกภาษาหนึ่งตามที่คุณเลือกได้

เอลฟ์ (Elf)

“ข้าไม่เคยนึกฝันเลยว่ามีสิ่งที่สวยงามถึงปานนี้อยู่” โกลด์มูนเอ่ยอย่างแผ่วเบา หลังผ่านการเดินทางหลายวันอย่างยากลำบาก แต่รางวัลที่ได้นั้นเกินจินตนาการ คณะเดินทางยืนอยู่บนผาสูงกำลังมองไปที่เมืองมายาแห่งควาลินอสท์

ยอดแหลมเรียวสี่ยอดโผล่ขึ้นมาจากมุมต่าง ๆ ของเมืองราวกับแกนหมุนที่วาววับ หินสีขาวสุกใสที่มีลายหินอ่อนสีเงินแวววาว ส่วนโค้งอันสง่างามโฉบจากยอดแหลมหนึ่งไปอีกยอดแหลมทะยานไปในอากาศ พวกมันสร้างขึ้นโดยช่างโลหะคนแคระโบราณ พวกมันแข็งแกร่งพอที่จะรับน้ำหนักของกองทัพทั้งกองได้ แต่พวกมันก็ดูบอบบางมากราวกับว่าหากนกบินมาเกาะอาจทำลายสมดุลไป ซุ้มโค้งที่วาววับเหล่านี้เป็นเขตแดนเพียงแห่งเดียวของเมือง ไม่มีกำแพงล้อมรอบ ควาลินอสท์ เมืองแห่งเอลฟ์อ้าแขนออกสู่ถิ่นทุรกันดารด้วยความรัก

— มากาเร็ต เวส & เทรซี่ ฮิกแมน, มังกรแห่งยามสายันห์ในฤดูใบไม้ร่วง (Dragons of Authumn Twilight)

เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์วิเศษจากโลกอื่น อาศัยอยู่ในโลกนี้แต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง พวกเขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่วิจิตรสวยงาม ในป่าโบราณในม่านหมอกหรือในเมืองหอคอยแวววาวมีแสงของภูติ ที่ที่มีเสียงดนตรีเบา ๆ แว่วมาพร้อมกับกลิ่นไม้หอมลอยมาตามลม เอลฟ์รักธรรมชาติและเวทมนต์ ศิลปะและงานวิจิตรศิลป์ ดนตรีและงานปฏิมากรรม และสิ่งสวยงามใด ๆ ในโลก

สูงโปร่งและสง่างาม

ด้วยความสง่างามและรูปร่างอันสมบูรณ์ เอลฟ์เป็นสิ่งที่สวยงามจนน่ากลัวสำหรับมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่น พวกเขาเตี้ยกว่ามนุษย์เล็กน้อยโดยค่าเฉลี่ย โดยสูงราว 5 - 6 ฟุต รูปร่างเพรียวกว่ามนุษย์ น้ำหนักราว 100 - 145 ปอนด์ ชายและหญิงสูงไล่เลี่ยกัน ชายจะมีน้ำหนักมากกว่าหญิงเล็กน้อย

สีผิวของเอลฟ์มีโทนเดียวกับมนุษย์และยังมีเฉดทองแดง ทองเหลือง และบางครั้งก็สีฟ้าเหลือบขาว ผมสีเขียวหรือน้ำเงิน ดวงตาเหมือนเป็นบ่อทองคำหรือเงินเหลว เอลฟ์ไม่มีขนบนหน้าหรือตามตัว พวกเขาชื่นชอบเสื้อผ้าสีสดสว่าง ชอบเครื่องประดับที่เรียบง่ายแต่สวย

มุมมองเหนือกาลเวลา

เอลฟ์มีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 700 ปี ทำให้พวกเขามีมุมมองต่อปัญหาต่าง ๆ ลึกซึ้งกว่าเผ่าพันธุ์อื่น ๆ พวกเขามักจะขบขันมากกว่าตื่นเต้นและมักจะขี้สงสัยมากกว่าจะโลภ พวกเขามักจากอยู่ห่าง ๆ และไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเป็นการไล่ตามเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยหรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ เอลฟ์จะมีสมาธิสูงและพยายามอย่างไม่ลดละ พวกเอลฟ์จะมีเพื่อนและศัตรูได้ยาก และการลืมยิ่งยากกว่า พวกเขาตอบแทนการสบประมาทด้วยการเมินเฉยและตอบแทนการดูหมิ่นด้วยการล้างแค้น

เหมือนกิ่งของต้นไม้วัยอ่อน เอลฟ์ยืดหยุ่นเมื่อพบเจอกับอันตราย พวกเขาเชื่อในวิธีการทูตการเจรจาในการแก้ไขข้อขัดแย้งมากกว่าจะตรงเข้าสู่ความรุนแรง เป็นที่รู้กันว่าพวกเขาจะล่าถอยจากการถูกบุกรุกเข้าไปในบ้านในป่าลึก รอให้ผู้บุกรุกจากไปเงียบ ๆ แต่หากพวกเขาต้องบุกโจมตี เอลฟ์จะแสดงความสามารถด้านการต่อสู้ ทักษะการใช้ดาบและธนูรวมถึงการวางแผนอย่างยอดเยี่ยม

อาณาจักรลับแลในป่าลึก

เอลฟ์ส่วนใหญ่จะอาศัยในหมู่บ้านในป่า ซ่อนตัวอยู่กับต้นไม้ เอลฟ์จะล่าสัตว์ หาอาหาร และปลูกพืชผัก ทักษะและเวทมนต์ทำให้พวกเขาสามารถทำการเพาะปลูกได้โดยไม่ต้องไถพรวนพื้นดิน พวกเขาเป็นช่างฝีมือเก่งด้านงานแกะสลัก การตัดเย็บและสร้างงานศิลปะ ปกติแล้วจะไม่ค่อยติดต่อกับคนภายนอก แต่เอลฟ์บางคนก็เอางานฝีมือไปขายแลกกับโลหะบ้าง (เพราะพวกเขาไม่ทำงานเหมือง)

เอลฟ์ที่มักจะพบเจอได้นอกเขตแดนของพวกเขามักจะเป็นพ่อค้าเร่ ศิลปิน หรือนักปราชญ์ พวกมนุษย์ชนชั้นสูงมักจะแข่งกันจ้างเอลฟ์มาสอนการต่อสู้หรือเวทมนต์ให้กับลูกหลาน

การท่องโลกและผจญภัย

เอลฟ์อาจจะออกผจญภัยด้วยเหตุผลแค่เพียงอยากออกไปท่องเที่ยว เพราะพวกเขามีอายุยืนนานมาก ก็อาจจะหาความสุขจากการสำรวจและค้นพบสิ่งต่าง ๆ พวกเขาไม่ชอบความหวือหวาของสังคมมนุษย์ที่เคลื่อนไปวันต่อวันและเปลี่ยนแปลงไปในระยะเวลาแค่ช่วงสิบปี พวกเขาเลยเลือกงานที่จะทำให้ได้เดินทางอย่างอิสระไม่ขึ้นกับใคร เอลฟ์พึงพอใจในการฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้และการได้รับพลังเวทย์มนต์เพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยวผจญภัยก็ทำให้เขาได้สิ่งเหล่านั้น บางคนก็ไปเข้าร่วมกับคณะปฏิวัติต่อสู้กับผู้กดขี่ และบางคนก็กลายเป็นฮีโร่ด้วยเหตุผลทางจริยธรรม

หยิ่งแต่มีน้ำใจ

แม้ว่าพวกเขาจะดูเย่อหยิ่งแต่เอลฟ์ก็มักจะมีน้ำใจกับคนที่แม้จะไม่ถึงมาตรฐาน ซึ่งก็คือทุกคนที่ไม่ใช่เอลฟ์ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังมองแต่แง่ดีของทุกคน

คนแคระ “พวกคนแคระดูทึ่ม เงอะงะ แต่สิ่งที่พวกเขาขาดไปไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ขัน ความซับซ้อนและมารยาท พวกเขาชดเชยได้หมดด้วยความกล้าหาญ และข้าต้องยอมรับว่า งานโลหะของพวกเขาคุณภาพดีเยี่ยมแทบจะดีเท่ากับของชาวเอลฟ์เลยทีเดียว”

ฮาล์ฟลิ่ง “ฮาล์ฟลิ่งเป็นคนที่มีความสุขได้ง่าย ๆ และนั่นก็ไม่ใช้คำดูแคลน พวกเขาเป็นคนดี ดูและพวกพ้องและดูแลสวน และพวกเขาก็พิสูจน์แล้วว่าเข้มแข็งกว่าที่คิดเมื่อถึงยามจำเป็น”

มนุษย์ “มีแต่ความเร่งรีบ ความทะเยอทะยานและความต้องการจะทำบางสิ่งให้สำเร็จก่อนที่ชีวิตอันแสนสั้นจะจบไป ทำให้มนุษย์มีสีสันในบางครั้ง แต่เมื่อดูสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ เจ้าจะรู้สึกทึ่งได้เลยในความสำเร็จนั้น ถ้าเพียงแค่พวกเขาช้าลงและเรียนรู้การขัดเกลาชีวิตบ้าง

ชื่อของเอลฟ์

เอลฟ์ถือว่าเป็นเด็กจนกระทั่งพวกเขาประกาศตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ บางครั้งก็หลังจากวันเกิดปีที่ 100 ก่อนที่จะถึงจุดนี้พวกเขาจะถูกเรียกด้วยชื่อจากวัยเด็ก

ในการประกาศการเป็นผู้ใหญ่ เอลฟ์จะเลือกชื่อใหม่ แม้คนรู้จักอาจจะยังเรียกด้วยชื่อในตอนเด็กอยู่ แต่ละชื่อจะเป็นการสร้างให้เป็นชื่อเฉพาะ อาจะเป็นการให้เกียรติบุคคลหรือสมาชิกในครอบครัว ชื่อชายกับหญิงไม่ค่อยแตกต่างกันนัก รายการด้านล่างนี้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อทั่วไป นอกจากนั้นเอลฟ์ทุกคนยังมีชื่อสกุล โดยทั่วไปจะเป็นการรวมกับศัพท์เอลฟ์อื่น ๆ เอลฟ์บางคนที่เดินทางร่วมกับมนุษย์จะแปลชื่อสกุลเป็นภาษากลาง แต่บางคนก็ใช้ชื่อปกติ

ชื่อวัยเด็ก อารา, บริน, เดล, เอริน, เฟน, อินนิล, ลาเอล, เมลล่า, เนลล์, เนริส, ฟาน, ราเอล, รินน์, ไซ, ซิลลิน, เธีย, วาล

ชื่อเอลฟ์ผู้ใหญ่ชาย แอดราน, เอลา, อารามิล, อารานนิส, อัสท์, เบย์โร, เบอเรียน, คาร์ริค, เอเนียลิส, เออแดน, เอเรวาน, กาลินน์ดาน, ฮาดาไร, เฮเอียน, ไฮโม, อิมเมอรัล, อิเวลลิออส, ลูเชียน, มินดาร์ทิส, เพลิอัส, เพเรน, ควาเรียน, ริอาร์ดอน, โรเลน, โซเวลิส, ธามิออร์, ธาริวอล, เธเรน, วาริส

ชื่อเอลฟ์ผู้ใหญ่หญิง เอดรี, อัลเทีย, อานัสทริอันนา, แอนดรัสเต้, แอนทินัว, เบธรินนา, บิเรล, ซีลีน, ดรูซิเลีย, เอนนา, เฟโลเซียล, อิเอเลเนีย, เจเลนเน็ต, เคย์เลธ, ลีชานา, ลิอา, เมเรียล, เมียลี, ไนวารา, เควเลนน่า, ควิลเลธ, ซาริเอล, ซาไนรา, ซาวา, ซิลาคี, เธราสทรา, ธีอา, วาดาเนีย, วาแลนธ์, ซานาเฟีย

ชื่อสกุล (แปลภาษากลาง) อามาเคอ (Gemflower: เจมฟลาวเวอร์), อามาสเตเชีย (Starflower: สตาร์ฟลาวเวอร์), กาลาโนเดล (Moonwhisper: มูนวิสเปอร์), โฮลิเมียน (Diamonddew: ไดมอนดิว), อิลเฟลเคอร์ (Gemblossom: เจมบลอสซั่ม), ลิอาดอน (Silverfrond: ซิลเวอร์ฟรอนด์), เมเลียมเน (Oakenheel: โอเคนฮีล), ไนโล (Nightbreeze: ไนท์บรีซ), ชิแอนโนเดล (Moonbrook: มูนบรูค), ไซโลเซียน (Goldptal: โกลด์เพตัล)

คุณลักษณะของเอลฟ์

เอลฟ์ของคุณมีความสามารถหลากหลายตามธรรมชาติ เป็นผลจากการดำรงอยู่มาหลายพันปี

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความว่องไว (Dexterity) เพิ่มขึ้น 2

อายุ แม้เอลฟ์จะเติบโตมีร่างกายเป็นผู้ใหญ่โดยใช้เวลาใกล้เคียงกับมนุษย์แต่ความเข้าใจเรื่องการเป็นผู้ใหญ่ยังต้องใช้เวลามากกว่านั้น เอลฟ์ส่วนใหญ่มักจะประกาศความเป็นผู้ใหญ่เมื่ออายุ 100 ปี และมีชีวิตอยู่ได้ราว 750 ปี

ขนาด เอลฟ์สูงราว 5 - 6 ฟุต รูปร่างผอมเพรียว เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเคลื่อนที่คือ 30 ฟุต

ดาร์กวิชัน เพื่อใช้ชีวิตในป่าทึบและความมืดยามราตรี คุณมีการมองเห็นในที่มืดและที่แสงน้อย คุณสามารถมองเห็นได้ในที่แสงน้อยภายในระยะ 60 ฟุต มองเห็นเหมือนอยู่ในที่แสดงปกติ และมองในที่มืดเหมือนมองในที่แสงน้อย คุณไม่สามารถแยกสีได้ในความมืด มองเห็นได้เป็นแค่เฉดสีเทา

ประสาทสัมผัสเฉียบคม คุณมีความชำนาญในทักษะการรับรู้ [Perception: เพอเซ็พชัน]

บรรพบุรุษเป็นเฟย์ (Fey) คุณมี advantage ในการทอยป้องกัน (saving throw) ต่อการถูกทำให้หลงใหล (charmed) และไม่มีเวทมนต์ใดทำให้คุณหลับได้

ภาวะกึ่งหลับ เอลฟ์ไม่ต้องการการนอน พวกเขาใช้การเข้าสมาธิแบบลึกอยู่ในสภาวะกึ่งหลับวันละ 4 ชม. ในขณะทำสมาธิพวกเขาจะฝันไปด้วย ความฝันนี้เป็นการบริหารจิตใจเพื่อให้ยืดหยุ่น เมื่อพักผ่อนแบบนี้แล้วคุณจะได้รับผลเหมือนที่มนุษย์ได้จากการพัก 8 ชม.

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษากลาง [Common: คอมมอน] และภาษาเอลฟ์ [Elvish: เอลวิช] ภาษาเอลฟ์มีความลื่นไหล พร้อมด้วยน้ำเสียงที่ละเอียดอ่อนและไวยากรณ์ที่สลับซับซ้อน วรรณกรรมของเอลฟ์มีมากมายและหลากหลาย เพลงและบทกวีของพวกเขามีชื่อเสียงในหมู่เผ่าพันธุ์อื่นๆ กวีหลายคนเรียนรู้ภาษาเอลฟ์เพื่อที่จะสามารถเพิ่มเพลงบัลลาดของเอลฟ์เข้าไปในรายการเพลงของพวกเขาได้

เผ่าพันธุ์ย่อย การแบ่งแยกจากครั้งโบราณทำให้เก็บเผ่าย่อย 3 เผ่า ไฮเอลฟ์ (high elves), เอลฟ์ป่า (wood elves) และดาร์กเอลฟ์ (drow: ดราว) เลือกหนึ่งในเผ่าย่อย 3 เผ่านี้ ในโลกอื่นเผ่าย่อยนี้อาจจะแบ่งได้มากกว่านี้ (เช่นเอลฟ์ทิวาและเอลฟ์จันทราในโลกของฟอร์ก็อทเทนเรียมส์) ดังนั้นถ้าคุณต้องการคุณก็สามารถเลือกจากเผ่าย่อยเหล่านี้ได้

ไฮเอลฟ์ - High Elf

เมื่อเป็นไฮเอลฟ์ คุณจะมีสัมผัสที่เฉียบแหลมและเชี่ยวชาญการใช้เวทมนต์อย่างน้อยระดับพื้นฐาน ในหลายโลกของ D&D มีไฮเอลฟ์ 2 ชนิด ชนิดหนึ่ง (รวมไปถึงเอลฟ์เทา [Gray elves: เกรย์เอลฟ์] และเอลฟ์หุบเขา [Valley elves: วัลเล่เอลฟ์] แห่งโลกเกรย์ฮอว์ค [Greyhawk], พวกซิลวาเนสติจากดรากอนแลนซ์ และเอลฟ์อาทิตย์แห่งฟอร์ก็อทเท็นเรียมส์) มีลักษณะเย่อหยิ่งและสันโดษ เชื่อในพวกพ้องและคิดว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่าผู้อื่นแม้แต่กับเอลฟ์เผ่าอื่น อีกชนิด (รวมถึงไฮเอลฟ์ในเกรย์ฮอว์ค, พวกควาลิเนสติในดรากอนแลนซ์ และเหล่าเอลฟ์จันทรา [moon elvees: มูนเอลฟ์] แห่งฟอร์ก็อทเท็นเรียมส์) เป็นเอลฟ์ทั่ว ๆ ไปเป็นมิตรกับเผ่าอื่นและมักจะพบเห็นว่าอยู่กับมนุษย์

เอลฟ์อาทิตย์แห่งเฟรูน (เรียกอีกชื่อว่าเอลฟ์ทองคำ [gold elves: โกลด์เอลฟ์] หรือเอลฟ์รุ่งอรุณ [sunrise elves: ซันไรส์เอลฟ์]) มีผิวสีทองสัมฤทธ์ [bronze: บรอนซ์] และผมสีทองแดง, ดำ, หรือสีบรอนส์ทอง ดวงตาสีทอง สีเงิน หรือดำ พวกมูนเอลฟ์ (บางทีเรียกเอลฟ์เงิน [silver elves: ซิลเวอร์เอลฟ์] หรือเอลฟ์เทา [gray elves: เกรย์เอลฟ์]) จะสีซีดกว่า ผิวสีเหมือนหินอ่อน บางครั้งมีเหลือบสีน้ำเงิน มักจะมีผมสีเงินถึงขาว สีดำ หรือน้ำเงินที่มีเฉดสีบลอนด์ น้ำตาล สีแดงก็มีแต่พบไม่บ่อย ดวงตาสีน้ำเงินหรือเขียวมีประกายทอง

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความฉลาด (Intelligence) เพิ่มขึ้น 1

การฝึกฝนด้านอาวุธเอลฟ์ คุณมีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบยาว [longsword: ลองซอร์ด], ดาบสั้น [shortsword: ช็อตซอร์ด], ธนูสั้น [shortbow: ช็อตโบว] และธนูยาว [longbow: ลองโบว]

แคนทริพ คุณสามารถใช้เวทอย่างง่ายจากรายการเวทของวิซาร์ด (wizard) ได้ 1 ชนิด คุณจะใช้คะแนนความฉลาด (Intelligence) เป็นพื้นฐานความสามารถในการใช้เวท

รู้หลากภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนได้เพิ่มอีก 1 ภาษา

วู้ดเอลฟ์ - Wood Elf

เมื่อเป็นวู้ดเอลฟ์ คุณจะมีสัมผัสที่เฉียบคมและความรอบรู้ คุณเคลื่อนไหวได้อย่างว่องไวและลอบเร้นในพื้นที่ป่าที่เป็นเสมือนบ้านของคุณ กลุ่มนี้รวมถึงเอลฟ์ป่า [wild elves: ไวด์เอลฟ์] (กรูกัค) แห่งเกรย์ฮอว์ค และคาโกเนสติในดรากอนแลนซ์ รวมถึงที่เรียกชื่อเดียวกันในเกรย์ฮอว์คและฟอร์ก็อทเท็นเรียมส์ ในเฟรูนนั้น วู้ดเอลฟ์ (บ้างเรียกไวด์เอลฟ์ กรีนเอลฟ์หรือฟอเรสเอลฟ์) เป็นพวกสันโดษและไม่ได้รับความเชื่อถือจากเผ่าพันธุ์อื่น ๆ

ผิวของวู้ดเอลฟ์เป็นโทนทองแดง บางครั้งมีเหลือบสีเขียว ผมมักจะสีน้ำตาลหรือดำแต่บางครั้งก็มีสีบรอนด์หรือสีทองแดงด้วย ดวงตาสีเขียว น้ำตาลหรือสีลูกเฮเซล

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนความรอบรู้ (Wisdom) เพิ่มขึ้น 1

เท้าท่องป่า ความเร็วในการเคลื่อนที่ของคุณคือ 35 ฟุต

สัญชาติญาณป่า คุณสามารถซ่อนตัวได้แม้จะอยู่ในที่มองเห็นได้ลาง ๆ (lightly obscured) เช่นพุ่มไม้ ฝนที่ตกหนัก หิมะตก หมอกและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอื่น ๆ

ดาร์กเอลฟ์ (ดราว) Dark Elf (Drow)

เมื่อเป็นดราว คุณเกิดมากับเวทมนต์จากอันเดอร์ดาร์ก (Underdark) อาณาจักรใต้ดินอันมหัศจรรย์และน่าสะพรึงกลัว เผ่าพันธุ์นี้พบได้ไม่บ่อยนักบนพื้นโลกเบื้องบน คุณมีเงาเป็นเหมือนบ้านและต้องขอบคุณพลังเวทย์มนต์แต่กำเนิดที่ให้คุณได้รู้การเรียกใช้ได้ทั้งแสงและความมืด เผ่าพันธุ์คุณมักจะมีผมสีขาวและผิวสีเทาในหลายเฉด

ลัทธิบูชาเทพโลธ (Lolth) นางพญาแมงมุม ได้ทำให้เมืองเก่าของดราวหลายเมืองจมดิ่งลงสู่ด้านมืด โดยเฉพาะในโลกเอิร์ธ (Oerth) และโทริล (Toril) โลกแห่งเอเบอรอน (Eberron) ครินน์ (Krynn) และโลกอื่น ๆ หลุดพ้นจากลัทธินี้มาได้ – ในตอนนี้ ไม่ว่าพวกลัทธิจะก่อการอะไร เหล่าฮีโร่ชาวดราวก็จะเข้าขัดขวางอย่างเต็มกำลังเพื่อกำจัดอำนาจของโลธให้ได้

คะแนนความสามารถเพิ่ม คะแนนเสน่ห์ (Charisma) ของคุณจะเพิ่ม 1

ดาร์กวิชันชั้นเทพ ความสามารถดาร์กวิชันของคุณจะเพิ่มระยะการมองเห็นเป็น 120 ฟุต

อ่อนไหวต่อแสงแดด คุณจะแพ้แสง คุณจะทอย disadvantage ทั้งการทอยโจมตีและการทอยทดสอบทักษะที่เกี่ยวกับความรอบรู้ (Wisdom) เช่นทักษะการรู้ตัว (Perception: เพอเซ็พชัน) ที่ต้องอาศัยการมืองเห็น เมื่อคุณหรือศัตรู หรือสิ่งที่คุณพยายามมองหาอยู่กลางแดดหรือที่มีแสดงปกติ

เวทมนต์ของดราว คุณรู้เวทแสงเต้นได้ [dancing light: แดนซิ่งไลท์] เป็นเวทแบบแคนทริพ เมื่อถึงเลเวล 3 คุณสามารถใช้เวทแฟรี่ไฟร์ [faerie fire] ได้หนึ่งครั้งด้วยคุณลักษณะนี้ และจะใช้ได้อีกหลังจากการพักแบบข้ามคืน [longrest: ลองเรส] เมื่อคุณถึงเลเวล 5 คุณจะสามารถร่ายเวทดาร์กเนส [darkness] ได้หนึ่งครั้งด้วยคุณลักษณะนี้ และจะใช้ได้อีกหลังจากการพักแบบข้ามคืน คุณจะใช้คะแนนเสน่ห์ (Charisma) ในการใช้เวทเหล่านี้

การฝึกฝนอาวุธของดราว คุณเชี่ยวชาญการใช้เรเปีย (rapiers), ดาบสั้น [shortsword: ช็อตซอร์ด], และครอสโบวมือ [hand crossbows: แฮนด์ครอสโบว]

ทิฟลิง (Tiefling)

“แต่เจ้าก็เห็นสายตาของพวกนั้นที่มองเจ้า เจ้าลูกปีศาจ”

ดวงดาสีดำคู่นั้น เย็นเหมือนพายุในฤดูหนาว จ้องเขม็งมาที่หัวใจของเธอและในฉับพลันน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังจนทำให้เธอสะดุ้ง

“พวกมันว่ายังไง” เขาถาม “หนึ่ง ฉงนสนเท่ สอง สงสัยหวาดระแวง”

“สามคือต้องสาป” เธอตอบ “ท่านคิดว่าข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเหลวไหลพวกนี้มาก่อนหรือ”

“ข้ารู้ดีว่าเจ้าเคย” เมื่อเธอมองไปที่เขา เขาเสริม “ก็ใช่ว่าข้าจะมาซ้ำเติมอะไรเจ้าหรอกนะ สาวน้อย พวกนี้มันติดตัวมากกับทิฟลิงทุกคนอยู่แล้ว บางคนก็รับไม่ได้ บางคนก็เห็นมันเป็นภาระที่ต้องแบกรับ บางคนก็สนุกไปกับมัน” เขาเอียงคออีกครั้งดวงตาฉายแววชั่วร้ายสำรวจเธออย่างละเอียด “เจ้าสู้กับมัน ใช่หรือไม่? เหมือนแมวป่าตัวน้อยข้าพนันได้ ทุกคำถากถางทุกคำติฉินนินทาเป็นแค่เครื่องลับเล็บของเจ้า้”

— เอริน เอ็ม. อีวาน บริมสโตน แองเจิล Erin M. Evans, Brimstone Angels

การได้รับการทักทายด้วยแววตาที่จ้องมองและเสียงกระซิบกระซาบ ความเจ็บปวดจากความรุนแรงและการเหยียดหยามบนท้องถนน การถูกหวาดระแวงไม่ไว้ใจและหวาดกลัวจากคนรอบตัว นี่คือสิ่งที่เหล่าทีฟลิ่งต้องเผชิญ ทีฟลิงทุกคนรู้ว่ารูปลักษณ์นี้เกิดมาจากการทำสัญญากับปีศาจเมื่อหลายชั่วอายุคนก่อน ทำให้ส่วนหนึ่งของแอสโมดิอุส เจ้าแห่งนรกทั้ง 9 ขุม ปะปนอยู่ในสายเลือด รูปลักษณ์และธรรมชาติของพวกเขาไม่ใช่ความผิดที่พวกเขาก่อ หากแต่เป็นผลจากบาปเมื่อครั้งโบราณที่ลูกหลานของพวกเขาและชนรุ่นหลังต่อมาต้องรับเคราะห์ด้วย

สายเลือดแห่งนรก (Infernal Bloodline)

ทีฟลิ่งสืบเชื้อสายจากมนุษย์ ดูโดยรวมแล้วพวกเขายังคงมีลักษณะของมนุษย์อยู่ อย่างไรก็ตามมรดกจากนรกก็สืบต่อมาทำให้พวกเขามีรูปลักษณ์แบบนี้ ทีฟลิ่งมีเขาขนาดใหญ่และมีรูปร่างต่าง ๆ บ้างมีลักษณะม้วนเหมือนเขาแกะ บ้างตั้งตรงเหมือนกวางกาเซลและบ้างก็เป็นเกลียวสูงขึ้นไปเหมือนกวางแอนทิโลป พวกเขามีหางอวบหนา ยาวราว 4 - 5 ฟุต ซึ่งอาจจะพันรอบเอวหรือขาเวลาที่เศร้าหรือกังวลใจ มีเขี้ยวตรงออกมาเหมือนหมาป่า และดวงตาของพวกเขาจะเป็นสีเดียว - ดำ, แดง, ขาว, เงิน, หรือทอง - ไม่มีตาดำหรือแก้วตา สีผิวหลากหลายเหมือนมนุษย์แต่บางครั้งมีเฉดสีแดง ผมจะยาวลงมาจากด้านหลังเขา มักมีสีเข้ม จากดำหรือน้ำตาลจนถึงแดงเข้ม น้ำเงิน หรือสีม่วง

เป็นเอกเทศและเป็นที่น่าสงสัย (Self-Reliant and Suspicious)

ทีฟลิ่งรวมตัวเป็นชนกลุ่มน้อยพบได้ส่วนใหญ่ในเมืองหรือหมู่บ้านของมนุษย์ มักจะพบในส่วนที่อยู่ได้ลำบากที่สุดของสถานที่นั้น เป็นที่ที่พวกเขาเติบโตมาเป็นพวกต้มตุ๋น ขโมย หรือแก๊งอาชญากร บางครั้งพวกเขาจะอาศัยอยู่กับชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในอาณาเขตเฉพาะของพวกเขาที่ที่ซึ่งจะได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติ

ด้วยความที่ไม่มีบ้านเกิดเมืองนอน ทีฟลิ่งรู้ว่าจะต้องหาหนทางของตนเองในโลกกว้างและพวกเขาต้องแข็งแกร่งเพื่อจะอยู่รอดได้ พวกเขาจะไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ แต่เมื่อเชื่อใจใครแล้วจะมอบความซื่อสัตย์เป็นเพื่อนและพันธมิตรจนชั่วชีวิต

พบเจอแต่ความหวาดระแวง MET WITH MISTRUST

พวกคนโง่มักจะไม่ไว้ใจและสงสัยในตัวทีฟลิ่ง โดยเหมารวมเอาว่ารูปร่างหน้าตาแบบนี้ไม่ใช่คนดีแน่นอน ในความเป็นจริงแล้วสายเลือดไม่ได้มีผลกับลักษณะนิสัยเลย พวกเขายังได้รับพรสวรรค์ (?) ด้านการใช้เวทย์มนต์จากดินแดนนรก และนำมาทำประโยชน์ในการใช้ชีวิตของพวกเขา

ชื่อของทีฟลิ่ง (Tiefling Names)

ชื่อของทีฟลิ่งจะมีอยู่สามกลุ่ม ทีฟลิ่งที่เกิดในวัฒนธรรมอื่นโดยทั่วไปจะได้ชื่อจากวัฒนธรรมนั้น บางคนได้ชื่อที่มาจากภาษาอินเฟอร์นัล ส่งต่อกันมาหลายชั่วคน ซึ่งสะท้อนถึงบรรพบุรุษเลือดปีศาจของพวกเขา ทีฟลิ่งวัยเยาว์บางคนพยายามหาที่ทางของตนในโลกนี้ เลือกใช้ชื่อที่สื่อถึงคุณธรรมหรือแนวคิดอื่นและพยายามปฏิบัติให้สมกับชื่อนั้น บางคนการเลือกชื่อเป็นความท้าทายอันทรงเกียรติ และกับบางคนก็กลายเป็นโชคชะตาที่น่าเศร้า

ชื่อผู้ชายในภาษาอินเฟอร์นัล: อัคเมนอส, อัมน่อน, บาราคาส, ดามาคอส, เอเคมอน, อิอาดอส, ไครอน, ลิวซิส, เมเลค, มอร์ได, มอร์ธอส, เพลาอิออส, สกามอส, ธีไร

ชื่อผู้หญิงในภาษาอินเฟอร์นัล: อัคทา, อะนาคิส, ไบรเซอิส, คริเอลล่า, ดาไมอา, อีอา, คาลิสตา, เลริสสา, มาคาเรีย, เนเมไออา, โอริอันนา, ฟีไลอา, ริเอตตา

ชื่อ “คุณธรรม”: อาร์ท, แคริออน, แชนท์, ครีด, เดสแปร์, เอ็กเซลเลนซ์, เฟียร์, กลอรี่, โฮป, ไอเดียล, มิวสิค, โนแวร์, โอเพน, โพเอททรี, เควส, แรนดอม, เรฟเวอเรนซ์, ซอร์โรว, เทเมริตี้, ทอร์เมนท์, เวรี่

คุณลักษณะของทีฟลิ่ง (Tiefling Traits)

ชาวทีฟลิ่งจะมีคุณลักษณะที่คล้ายกันเนื่องมาจากการสืบสายเลือดจากปีศาจ

คะแนนความสามารถเพิ่มขึ้น คะแนนความฉลาด (Intelligence) เพิ่มขึ้น 1 และคะแนนเสน่ห์เพิ่มขึ้น 2

อายุ ทีฟลิ่งจะโตเป็นผู้ใหญ่ในอัตราเดียวกับมนุษย์ แต่จะอายุยืนกว่าเล็กน้อย

ขนาด ทีฟลิ่งมีขนาดตัวเช่นเดียวกับมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดกลาง (Medium)

ความเร็ว ความเร็วในการเดินปกติคือ 30 ฟุต

ความต้านทานจากนรก คุณมีความต้านทาน (resistance) ต่อความเสียหายจากไฟ

มรดกจากนรก (Infernal Legacy) คุณสามารถใช้คาถาแสดงปาฏิหาริย์ (thaumaturgy cantrip) ได้ เมื่อคุณถึงเลเวล 3 คุณสามารถใช้คาถาคำสาปจากนรก (hellish rebuke spell) โดยใช้สล็อตคาถาเลเวล 2 ได้หนึ่งครั้งจากคุณลักษณะ (trait) นี้ และจะใช้ได้อีกครั้งเมื่อจบการพักผ่อนยาว (long rest) เมื่อคุณถึงเลเวล 5 คุณจะสามารถใช้คาถาความมืด (darkness spell) ได้หนึ่งครั้งจากคุณลักษณะ (trait) นี้ และจะใช้ได้อีกครั้งเมื่อจบการพักผ่อนยาว (long rest) คุณจะใช้คะแนนเสน่ห์ (Charisma) เป็นความสามารถที่ใช้ในการร่ายคาถาสำหรับคาถาเหล่านี้

ภาษา คุณสามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาคอมมอนและภาษาอินเฟอร์นัล

ทีฟลิ่งเผ่าพันย่อย (Variant Tiefling)

จากการที่ไม่ใช่ทีฟลิ่งทุกคนจะสืบสายเลือดมาจากแอสโมดิอุส บางคนมีคุณลักษณะบางอย่างที่แตกต่างไปจากใน “คู่มือผู้เล่น (Player’s Handbook)” DM อาจจะอนุญาตให้ใช้ทีฟลิ่งเผ่าพันธุ์ย่อยนี้เป็นตัวละครได้ แม้ว่าความสามารถลิ้นปีศาจ (Devil’s Tongue), ไฟนรก (Hellfire) และปีก (Winged) จะเป็นความสามารถพิเศษ

ลักษณะภายนอก ทีฟลิ่งของคุณอาจจะไม่เหมือนทีฟลิ่งอื่น นอกเหนือจากที่มีระบุลักษณะไว้ในคู่มือผู้เล่นแล้ว ให้คุณทอย 1d4 + 1 เพื่อเลือกลักษณะพิเศษดังนี้: เขาเล็ก, มีเขี้ยวหรือฟันคม, ลิ้นสองแฉก, ตาเหมือนแมว, มือมี 6 นิ้ว, มีขาเหมือนแพะ, เท้ากีบ, สองหาง, ผิวเป็นแบบหนังสัตว์หรือมีเกล็ด, ผิวสีแดงหรือน้ำเงินเข้ม, ไม่มีเงาแดดหรือเงาสะท้อนในกระจก, มีกลิ่นเหมือนกำมะถัน

ทีฟลิ่งเผ่าพันธุ์ย่อย (Variant Tiefling) ลิ้นปีศาจ คุณสามารถใช้คาถาด่าเสียผู้เสียคน (vicious mockery cantrip) ได้ เมื่อคุณถึงเลเวล 3 คุณสามารถใช้คาถามหาเสน่ห์ (charm person spell) โดยใช้สล็อตคาถาเลเวล 2 ได้หนึ่งครั้งจากคุณลักษณะนี้ เมื่อคุณถึงเลเวล 5 คุณสามารถใช้คาถาตรึงใจ (enthrall spell) ได้หนึ่งครั้งด้วยคุณลักษณะนี้ คุณต้องพักยาวก่อนเพื่อจะใช้คาถาได้อีกครั้ง คะแนนเสน่ห์จะเป็นความสามารถที่ใช้ในการร่ายคาถา คุณลักษณะนี้จะแทนที่คุณลักษณะ “มรดกนรก (Infernal Legacy trait)”

ไฟนรถ เมื่อคุณถึงเลเวล 3 คุณจะสามารถใช้คาถาฝ่ามือเพลิง (burning hands spell) หนึ่งครั้งในหนึ่งวันโดยใช้สล็อตคาถาเลเวล 2 คุณลักษณะนี้จะแทนที่คาถาคำสาปจากนรก (hellish rebuke spell) จากคุณลักษณะมรดกจากนรก (Infernal Legacy)

ปีก ปีกเหมือนค้างคาวจะงอกจากไหล่ของคุณ คุณสามารถบินได้ด้วยความเร็ว 30 ฟุตในขณะที่ไม่ได้ใส่เกราะหนัก